จากกรณีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.(สบ 8) ปฏิบัติราชการ บช.น.ร่วมกับ พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน แถลงจับกุมคนร้ายวิ่งราว สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จากร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาลาดพร้าว เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ ได้ใช้การสืบสวนภาพคนร้ายจากกล้อง CCTV ในพื้นที่ ซึ่งติดตั้งตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนของ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และสามารถจับกุมได้ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ภายหลังคนร้ายก่อเหตุ
ล่าสุด พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.(สบ 8) ปฏิบัติราชการ บช.น. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของกล้อง CCTV ในพื้นที่ สน.ลุมพินี เนื่องจากเป็นพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่มีสถานที่สำคัญตั้งอยู่ อาทิ สถานฑูต,ห้างสรรพสินค้า,ธนาคาร,โรงเรียน,โรงพยาบาล,สวนสาธารณะ และที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ จึงมีความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ฯ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับมอบหมายจาก พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้ติดตามกรณีดังกล่าว ในพื้นที่ตำรวจนครบาล โดยจะลงพื้นตรวจสอบความพร้อม และให้คำชี้แนะ รวมถึงหาทางแก้ปัญหาในบ้างจุด บ้างพื้นที่ เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้ง กรุงเทพมหานคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สถานศึกษา ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า ระบบขนส่ง ภาคเอกชน ภาคประชาชน
โดย พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ท่านมีความห่วงใยความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำงานของตำรวจอย่างมีระบบ เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งขณะนี้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบความสำเร็จติดตั้งและเชื่อมต่อกล้อง CCTV ไปกว่า 1 หมื่นตัวแล้ว ทั่วกรุงเทพมหานคร และจะพัฒนาให้เพิ่มขึ้นเพื่อพี่น้องประชาชนในเมืองหลวง รวมถึงต่างจังหวัด อีกด้วย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน