วันที่ 4 กรกฏาคม พ.ศ.2564 นายสุทธิชัย ปิยรัตนวรสกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการรถเครนจังหวัดสมุทรสาครไดัเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการปิดแคมป์คนงาน 30 วันนั้น ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก ต่อผู้ประกอบการรถเครนที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ กว่า 1,000 ราย เช่น รถเครน รถหัวลาก รถหัวขุด รถเทรลเลอร์ เป็นต้น ซึ่งมีพนักงาน และเจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบราว 10,000 คน โดยประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า1,000 ล้านบาท
สืบเนื่องจากสมาชิกของสมาคมฯ หลายราย ซึ่งเป็นคู่สัญญากับทั้งโครงการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ของภาครัฐจะต้องหยุดชะงักลง ไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 โครงการของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้แก่ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ 3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าวสำโรง รวมถึงโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง (ทล.) อีกทั้งโครงการก่อสร้างทางพิเศษ (ทางด่วน) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
ผลกระทบที่ได้รับนั้น สมาคมฯ เตรียมบุกกรุงเขิายื่นหนังสือถึงหน่วยงานภาครัฐ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง เพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิ์ที่พึงจะได้รับ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการรถเครน รวมถึงพนักงาน และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในปัจจุบัน เช่น ขอให้ประสานงานกับสถาบันทางการเงิน เพื่อขอผ่อนผันและชะลอการชำระหนี้ออกไป 6 เดือน รวมถึงขอลดอัตราดอกเบี้ยให้ นอกจากนี้ จะขอให้ชดเชยค่าจ้างกับพนักงานและเจ้าหน้าที่ให้สอดรับกับสภาพความเป็นจริง เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่า จะเดินทางไปยื่นหนังสือในเร็ววันนี้
และถึงแม้ว่าหากครบกำหนดตามคำสั่ง 30 วันแล้ว อาจจะจะต้องทยอยดำเนินการตามขั้นตอนของการก่อสร้าง โดยคาดว่า จะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5-6 เดือน แล้วถ้าหากมองในแง่ที่แย่ที่สุด โดยอาจจะขยายการปิดแคมป์-หยุดก่อสร้างออกไปอีก คงจะต้องเห็นผู้ประกอบการต้องปิดกิจการ และอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างได้” นายสุทธิชัย กล่าว.
ภาพ/ข่าว
cr.ทรงพล/วีระเดช เกิงฝาก รายงาน