เมื่อวันที่ 3 ก.ค.64 : พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี,พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ รอง ผบก.สปพ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ,พ.ต.ท.อัครพล โทยะ,พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์,พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ,พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ และ พ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจฯ
ร่วมกันจับกุมนาย ภานุพันธุ์ หรือ เน็ค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี พร้อมด้วยของกลางกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 39 กิโลกรัม,อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 380 จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืน ขนาด 380 จำนวน 52 นัด และอุปกรณ์สำหรับการแพคของ โดยสามารถจับกุมได้ ภายในซอยพระราม 2 ซอย 60/1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ต่อเนื่อง ห้องเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ แยก 35-1 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของชาติที่สำคัญต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดขับเคลื่อนการปราบปรามอย่างจริงจัง ต่อมาชุดสืบสวนฯ ทำการสืบสวนจนทราบว่ามี การจำหน่ายกัญชาผ่านช่องทางเฟสบุ๊กโดยใช้ชื่อ “บังแจ๊ค” โดยจัดส่งกัญชาผ่านช่องทางขนส่งเอกชน จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า คนร้ายจะใช้รถจยย.ทำการส่งยาเสพติด โดยมีต้นทางที่หมู่บ้านดีเค แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.จึงได้นำกำลังสังเกตการณ์ที่บริษัทเอกชน ภายในซอยพระราม 2 ซอย 60/1 จนกระทั่งพบผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์ มาที่บริษัทเอกชนดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 2 กิโลกรัม
ทั้งนี้จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่ายังมีกัญชาอีกจำนวนหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่บนห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ แยก 35-1 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.จีงนำกำลังไปตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง จำนวนประมาณ 37 กิโลกรัม,กล่องพัสดุ เลขกำกับพัสดุ,อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุนปืน และเครื่องซีลปากถุง-ถุงพลาสติกใส จำนวน 50 ใบ วางอยู่ภายในห้องพัก โดยนายภานุพันธุ์ฯ ให้การว่าซื้อกัญชามาจากเพื่อนในเฟสบุ๊กในราคากิโลกรัมละ 4,500 บาท ก่อนนำมาแบ่งจำหน่าย และส่งพัสดุผ่านขนส่งเอกชน ในราคากิโลกรัมละ 5,500 บาท เพื่อเอากำไรอีกต่อหนึ่ง ซึ่งทำมานานกว่า 2 เดือน โดยใช้ขื่อนามแฝงในวงการว่า “บังแจ๊ค” ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบมีการส่งกัญชา มากกว่า 100 รายการ มีรายได้เดือนละ 300,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฯ แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และ “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน