ตามที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษเพื่อการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีการบูรณาการทุกหน่วยงานในการขับเคลื่อนการดำเนินการเพื่อติดตามยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุด ในวันนี้ วันอังคารที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 08.30 น. พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้
สั่งการให้ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพาลีปราบยา 2 ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษเพื่อการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ได้สนธิกำลัง 3 หน่วย ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 เข้าค้นบ้านเลขที่ 111/11 หมู่ 12 ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก ตามอนุมัติศาลจังหวัดตาก ที่ 36/2564 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564
ในฐานความผิด ร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ โดยปรากฏผลการสืบสวนสอบสวนว่า กลุ่มบุคคลมีธุรกรรมต้องสงสัยและมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเส้นทางการเงินกับกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด ซึ่งการตรวจสอบย้อนหลัง 9 ปี นับแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของบุคคลในครอบครัวและบุคคลอื่นๆ เฉลี่ยปีละประมาณ 500 ล้านบาท โดยบางช่วงมีการหมุนเวียนสูงถึง 1,200 ล้านบาท รวมทั้งไม่ปรากฏข้อมูลในการเสียภาษีแต่อย่างใด ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ และพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างการดำเนินการในคดีพิเศษที่ 33/2564
ผลการตรวจค้นสถานที่พบโฉนดกรรมสิทธิ์ที่ดินหลายแปลงทั้งบุคคลในครอบครัวและบุคคลอื่น สมุดทะเบียนรถยนต์ สมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบไว้หลายรายการ ได้แก่
1.บ้านและที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี,จังหวัดตาก และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวม 5 แปลง
2.ยานพาหนะ ประเภทรถยนต์และรถบรรทุก จำนวน 11 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน
3.บัญชีธนาคารบุคคลเป้าหมายและครอบครัว รวมประมาณ 30 บัญชี
4.ทองรูปพรรณและนาฬิกาอีกจำนวนหนึ่ง
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกดำเนินการในครั้งนี้ประมาณ 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ขยายผลควบคู่การใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติกรรมการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกราย และให้โอกาสในการพิสูจน์ทั้งความบริสุทธิ์
และความผิดตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยหากประชาชนมีเบาะแส สามารถติดต่อสายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร.1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ)
ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2564
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน