พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ช่วยราชการ รอง ผบช.น. กล่าวว่า คณะทำงานสอบสวนกองบัญชาการ
ตำรวจนครบาลกำลังประสานความร่วมมือตำรวจกองบังคับการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญา
กรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
สืบค้นตรวจสอบบุคคลที่โพสต์ข้อความต่างๆ ลงอินเทอร์เน็ต คัดค้านต่อต้าน คสช. และกฎอัยการศึก เพื่อขอ
อนุมัติศาลออกหมายจับ-ดำเนินคดี รวมถึงบุคคลที่โพสต์ข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์ค นัดหมายประชาชน
ร่วมกิจกรรมต่อต้านทุกรูปแบบ เพราะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย มาตรา 116 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
คาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายใน 2-3 วันนี้ ส่วนผู้ที่แชร์ข้อความลักษณะดังกล่าวต่อๆ กันไป
ถือว่ามีความผิดด้วย รวมถึงการชุมนุมในที่ต่างๆ ช่วงที่ผ่านมา ตำรวจจะเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
การชุมนุมต่อต้านประกาศกฎอัยการศึกในทุกคดีที่มีการกระทำความผิด หากแล้วเสร็จ จะขออนุมัติศาล
ออกหมายจับในทันที ส่วนผู้ที่ขัดคำสั่ง คสช.เรียกรายงานตัว หากไม่มารายงานตัวตามวันเวลาที่กำหนด
พนักงานสอบสวนจะพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็น ว่าสมเหตุผลหรือไม่ หากไม่มีเหตุผลอันควร
จะมีการออกหมายเรียก และหมายจับตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน คสช.จากเหตุการณ์วันที่ 7 มิ.ย.นั้น ตำรวจสามารถบันทึก
ภาพผู้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วต่อต้านได้ทั้งหมด 7 คน และชัดเจนพอที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับ
ส่วนที่เริ่มพบการแสดงออกด้วยการนัดกินแซนวิช ประกอบการอ่านแถลงการณ์ คงต้องมีการพิจารณา
อีกครั้ง ว่ามีเนื้อหา หรือมีลักษณะต่อต้าน คสช. เหมือนกันหรือไม่ รวมถึงการโพสต์ข้อความเชิญชวน
ให้ต่อต้าน คสช. ถือว่ามีความผิดแน่นอน เพราะเป็นการชวนคนให้มาชุมนุม หรือการแสดงความชื่นชอบ
ด้วยการกดไลค์ ถือว่ามีความผิดเช่นกัน เพราะเป็นการกระจายข่าวโดยคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็น
ผู้เขียนขึ้นเองก็ตาม ส่วนกรณีจับกุม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) นั้น มีการดำเนินคดีแล้ว
โทษฐานที่ไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.และ กฎหมายอาญา มาตรา 116 และยุยงให้คนมาชุมนุม
อย่างไรก็ตาม คดีอื่นๆ ที่ทหารไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่มารายงานตัวนั้น จะมีการตั้งทีมมาตรวจสอบ
คดีนี้ โดยมอบหมายให้ สน.สามเสน รวบรวมคดีที่มีการแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ซึ่งมีประมาณ
3 – 4 รายโดยจะแยกกับส่วนที่มีการแจ้งความไว้ที่กองปราบปราม
พล.ต.ต.อำนวย ยอมรับว่า จากรายงานการข่าว และประเมินผลการชุมนุมค้านคสช. ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
พบผู้ออกมาต่อต้านการควบคุมอำนาจน้อยลงเรื่อยๆ ต่างจากช่วงแรกที่มียอดชุมนุมหลักพันเมื่อช่วงเดือน
พ.ค.หลังประกาศกฎอัยการศึก แต่ต่อมาช่วงเดือน มิ.ย.นี้ มีผู้ชุมนุมแค่เพียงหลักร้อยเท่านั้น