ผู้สื่อข่าวมีรายงาน วันที่ 10 มิ.ย.64 เวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก : นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้อง นายพงษ์เดช วานิชกิตติกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อ.1319/2564 ในความผิดฐาน คดีหมิ่นประมาท
โจทก์บรรยายคำฟ้องสรุปว่า คดีนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 นายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปช. ได้ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.,น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. และนายวงศ์สกุล กิตติพรหมพงศ์ อสส. ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ในฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ต่อมาวันที่ 16 พ.ย.63 ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและองค์คณะมีคำสั่งให้รับคดีดังกล่าวไว้พิจารณา ระหว่างการพิจารณาก่อนถึงวันนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 5 เม.ย.64 มีผู้ร้องเรียนหรือกล่าวหาโจทก์ว่าเข้าไปก้าวก่าย หรือแทรกแซงการพิจารณาคดีดังกล่าว จนแป็นเหตุให้ประธานศาลฎีกา มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และชี้ว่าคดีมีมูล ประธานศาลฎีกาจึงมีคำสั่งย้ายให้โจทก์ไป ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1
และในวันที่ 9 มิ.ย.64 จำเลยซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้กระทำการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อบุคคลอื่น และสื่อมวลชนโดยการโฆษณาข่าวแจกสื่อมวลชนด้วยเอกสารหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฎแก่บุคคลทั่วไป โดยประการที่จะทำให้โจทก์เสียหาย โดยระบุข้อความ ว่า เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมย้ำผลสอบสวนข้อเท็จจริง อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีมูล รอกรรมการชุดสอบวินัยสรุปผล หลังมีรายงานข่าวให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน นอกจากนี้ ยังให้ข้อมูลแก่สื่อว่า โจทก์ ถูกร้องเรียนกรณีถูกกล่าวหาก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาคดี ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคู่ความและกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ โจทก์มีประสบการณ์ในการพิจารณาพิพากษาคดีอื่นๆมาเป็นเวลานานมากกว่า 30 ปี และเคยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ให้เป็นอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม จึงตระหนักดีว่า การทำหน้าที่ผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมนั้นต้องมีความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี ขณะเป็นเจ้าของสำนวน ย่อมมีความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี ตาม กฎหมายรัฐธรรมนูญปราศจาก ผู้ใด ก้าวก่ายหรือแทรกแซง ในการพิจารณาคดีนั้นเช่นกัน ผู้บริหารในศาลต่างๆต้องให้ความเป็นธรรมกับแก่คู่กรณีทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชนทั่วไปด้วย
ดังนั้นการที่จำเลย ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จำเลยย่อมรู้ดีว่า การนำข่าวมาแจกสื่อมวลชนดังกล่าวนั้น เป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อบุคคลอื่นและสื่อมวลชนด้วยการโฆษณาด้วยเอกสาร อันจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326,328 และ 91
โดยศาลอาญาได้รับเรื่องไว้ พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในวันที่ 4 ต.ค.64 เวลา 09.00 น.
ขณะที่นายปรเมษฐ์ฯ ชี้แจงเรื่องของ การลาป่วย ในขณะที่ ถูกตั้งกรรมการสอบ เรื่องการแทรกแซงคดี โดยระบุว่า เรื่องของอาการเจ็บป่วยด้วยโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ถือเป็นเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน เป็นการใช้สิทธิ์ของข้าราชการ ที่สามารถยื่นใบลาต่อ ประธานศาลฎีกา ในภายหลังได้ จากการเจ็บป่วยดังกล่าวทำให้ ตนเองไม่สามารถเข้าไปชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ตามกำหนดนัดหมาย แต่ก็ได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อแจ้งไปแล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้ ยังได้เก็บหลักฐานเป็นประวัติการโทรศัพท์ในวันดังกล่าวไว้ด้วย และหากมีการดำเนินการใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีการพาดพิงตนเองในทางเสียหาย ก็จะใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ในการยื่นฟ้องคดีต่อศาล
สุรเชษฐ ศิลานนทฺ์ รายงาน