วันที่ 9 มิ.ย.64 : พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียหายเป็นชายไทยหลายรายตกเป็นเหยื่อแก๊งคนร้ายต่างชาติข่มขู่เรียกเงินแลกกับคลิปที่แอบบันทึกไว้ขณะเหยื่อถูกหลอกสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง”
วิธีการของแก๊งคนร้าย เรียกว่า “Sextortion” คือ การใช้อำนาจที่ฝ่ายหนึ่งมีอำนาจเหนือฝ่ายหนึ่ง บังคับ ข่มขู่หรือกรรโชกทางเพศ เพื่อหวัง “สิ่งตอบแทน” ในลักษณะนี้คือต้องการเงิน โดยใช้ช่องทางออนไลน์ในการกระทำผิด ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการใช้ภาพโปรไฟล์หญิงสาวสวยเซ็กซี่ชาวต่างชาติทั้งฝรั่ง หรือ หญิงสาวประเทศในแถบเอเซียแอดมาขอเป็นเพื่อนผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้ง ไลน์ และเฟซบุ๊ก จากนั้นจะชวนเหยื่อแชตเป็นภาษาอังกฤษพูดคุยจนเหยื่อตายใจคิดว่าได้คุยกับหญิงสาวเหล่านั้นจริงๆ ก่อนจะชักชวนเหยื่อเปิดกล้องวีดีโอคอลแล้วชวนสำเร็จความใคร่ โดยอ้างว่าแลกกันดูก่อนจะแอบอัดคลิปไว้เรียกค่าไถ่ เมื่อคนร้ายได้คลิปแล้วจะขู่ว่าจะส่งคลิปลับไปให้ ภรรยา ลูก เจ้านาย ลูกน้องในที่ทำงาน หรือเพื่อนของเหยื่อ ฯลฯ ทำให้เหยื่อมีความวิตกกังวล กลัวจะได้รับความเสื่อมเสียและอับอาย จึงยอมโอนเงินไปให้คนร้าย โดยจะเปิดราคาเริ่มต้นที่ 50,000 บาท อาจมีการต่อรองกันจนเหลือประมาณ 20,000-30,000 บาท แต่เรื่องกลับไม่จบแค่นั้น เพราะคนร้าย จะเรียกเงินต่อไปอีกเป็นครั้งที่ 2 หรืออีกหลายครั้ง จนทนไม่ไหว จึงมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับวิธีการเลือกเหยื่อ แก๊งคนร้ายจะเลือกชายไทยที่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ฐานะตำแหน่งหน้าที่การงานดี เป็นคนรักครอบครัว ประเภทแฟมิลี่แมน เพราะรู้ว่าเหยื่อจะกลัวครอบครัวรู้ อีกทั้งเป็นที่รู้จักนับถือของคนในสังคม เกรงจะได้รับความอับอาย คนร้ายย่อมได้เงินจากการข่มขู่แน่นอน
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า แก๊งคนร้ายเหล่านี้มักเป็นชาวต่างชาติ ที่พบส่วนใหญ่เป็นแก๊งฟิลิปปินส์ จึงใช้ภาษาอังกฤษในการแชต การโอนเงินมักจะให้เหยื่อโอนเป็นเงินสกุลดิจิทัล เพื่อให้ยากต่อการติดตาม ส่วนกรณีแก๊งคนไทย ส่วนใหญ่จะแชตด้วยภาษาไทย โดยเลือกเหยื่อเป็นผู้หญิงหน้าตาดี และมักอ้างตัวเองว่าเป็นโมเดลลิ่ง ชักชวนเหยื่อเข้าวงการถ่ายแบบ หรือ วงการบันเทิง จากนั้นจะขอดูสัดส่วนเหยื่อผ่านกล้อง บางครั้งมีการว่าจ้างให้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองผ่านกล้องวิดีโอคอล เมื่อได้ภาพนิ่ง/คลิป ก็จะข่มขู่ในรูปแบบตัวเงินหรือ บังคับให้ทำอย่างอื่นต่อ จากนั้นจะนำภาพ/คลิป ไปขาย หรือไปปล่อยในเว็บไซต์ลามก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคนร้าย ดังกล่าว จึงฝากข้อควรระวัง ดังนี้
1.ไม่ควรรับแอดเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้ภาพสาวสวยเซ็กซี่ หรือ หากจำเป็นหรือต้องการจะรับจริงๆก็ขอให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีให้ดี
2.เมื่อมีเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ชวนให้วิดีโอคอล แล้วชักชวนให้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง อย่าทำเด็ดขาด ไม่ว่า เขาจะโน้มน้าวอย่างไรก็ตาม
3.หากตกเป็นเหยื่อโดยถูกถ่ายคลิปและมีการข่มขู่เรียกเงิน อย่าโอนเงินให้ เพราะท่านจะถูกข่มขู่เรียกเงินซ้ำอีก ให้รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งตำรวจ
สำหรับความผิด ผู้กระทำผิดจะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ที่ระบุว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากมีการนำภาพไปปล่อยในเว็บไซต์ลามก ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ก็จะผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ระบุว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชน ทั่วไปอาจเข้าถึงได้
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน