เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำกับสำนักงานชลประทานที่ 12 คาดว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึงบริเวณ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ต.บางหัก ต.บางหลวง ต.วัดตะกู ต.ทางช้าง อ.บางบาล ต.ท่าดินแดง ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง ต.บ้านโพธิ์ ต.บ้านแพน ต.รางจระเข้ ต.สามกอ ต.เจ้าเจ็ด ต.บางนมโค และ ต.น้ำเต้า อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงบริเวณท้ายแม่น้ำน้อย ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 12 จะดำเนินการบริหารจัดการน้ำเข้าพื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตกและตะวันออกด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาตามศักยภาพที่สามารถรับน้ำได้
ประสาน7จว.พร้อมรับมือน้ำท่วม
นายฉัตรชัย เปิดเผยว่า ได้ประสาน 7 จังหวัดภาคกลางลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี รวมถึงศูนย์ ปภ.ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และให้ติดตามสถานการณ์และประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเก็บและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และกำลังเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล(OTOS) เฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม.
กรมชลฯเตือน16ตำบลเสี่ยง
ด้าน นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าช่วงนี้มีปริมาณน้ำเหนือไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 1,700 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที ทำให้สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีฝนตกหนักในพื้นที่ โดยขณะนี้ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,300 ลบ.ม.ต่อวินาที จึงได้แจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการ 7 จังหวัดภาคกลาง ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแนวฝั่งซ้ายและขวาของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เช่น จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ 16 ตำบล 2 อำเภอของพระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง อาจมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งท่วมได้
สั่งจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด
นายสุเทพ กล่าวว่าได้สั่งให้สำนักงานชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่านตอนล่าง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำบางประกง จับตาสถานการณ์น้ำปลายสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิดเพื่อแจ้งเตือนทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงป้องกันพื้นที่เกษตรกรรมที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าว เนื่องจากจะมีร่องฝนขยับจากภาคเหนือลงมาภาคกลาง ให้รอดูปริมาณฝนตกระยะนี้ โดยได้วางแผนเร่งระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้เพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ลบ.ม.ต่อวินาที เนื่องจากข้างบนเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีน้ำหลากจาก แม่วงก์ ลุ่มน้ำสะแกกรัง เข้ามาสมบทในแม่น้ำเจ้าพระยา 100 ลบ.ม.ต่อวินาที
ยันน้ำไม่ท่วม-เอาตำแหน่งประกัน
“ช่วงร่องฝนเคลื่อนมาภาคกลางและมีลมมรสุม ทำให้ฝนตกหนักภาคกลางตอนบน และภาคกลางตอนล่าง เป็นช่วงฝนตกท้ายเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ จึงต้องเฝ้าระวังทุกลำน้ำท้ายเขื่อน จะมีฝนต่อเนื่องก.ย. ต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตามช่วงฤดูฝนเหลืออีก 30 กว่าวัน ยืนยันว่าปลายปีนี้ไม่เสี่ยงเกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่แน่นอน ทั้งพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ผมเอาตำแหน่งเป็นประกัน ขณะนี้ปริมาณน้ำที่บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 735 ลบ.ม.ต่อวินาที หากจะเกิดน้ำท่วมภาคกลางและกทม.ปริมาณน้ำที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ ต้องอยู่ที่ระดับ 3,800 ลบ.ม.ต่อวินาทีขึ้นไป” อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
สลด!น้ำพัดจมทั้งคนทั้งรถ
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. เกิดเหตุกระแสน้ำพัดรถยนต์กระบะตกลงไปในลำห้วย จมหายไปพร้อมกับคนขับ ที่หมู่ 9 ต.บานเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีตทางเข้าหมู่บ้าน โดยมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนน กระแสน้ำรุนแรงมาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ใช้เรือยนต์ 4 ลำออกค้นหา ประมาณ 1 ชม. จึงพบรถกระบะคันดังกล่าวจมอยู่ใต้น้ำห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่จึงนำเชือกเส้นขนาดใหญ่ผูกติดกับตัวรถ และใช้เรือลาก แต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง ต่อมา ทหารจาก นพค.11 ได้นำรถแบ็กโฮ เข้ามาช่วยลากรถกระบะขึ้นมา
พบศพผจก.รีสอร์ทดับคารถ
กระทั่งเวลา 16.40 น. จึงกู้ซากรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดราก้อน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ลบ 6190 กทม. ขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จโดยพบศพคนขับเสียชีวิตอยู่ภายใน ทราบชื่อ นายสมโภชน์ ตวงกวย อายุ 71 ปี เป็นผู้จัดการรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะคนขับ ลักษณะนอนคว่ำหน้าหัวคมำห้องลงไปที่พื้นวางเท้าเบาะซ้าย โดยหลังจากคณะแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพแล้วเสร็จ ทางญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการตาย จึงให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำศพไปทำพิธีทางศาสนา ที่จังหวัดสมุทรสาครต่อไป
อ.เสนา-บางบาล อยุธยาท่วมแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40 ซม. หลังมีการระบายน้ำปล่อยลงมาท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มากถึง 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งขยายออกเป็นวงกว้างโดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำของ อ.เสนา และ อ.บางบาล น้ำท่วมใต้ถุนบ้านสูง 20-50 ซม. ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงแล้ว และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
อ่างทอง เขื่อนริมตลิ่งทรุด
ที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างหน้าวัดโบสถ์ ถึงท่าแร่ หมู่ 4 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง พบว่ามีริมตลิ่งสถานที่ก่อสร้างเขื่อน สไลด์ทรุดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นระยะทางยาวกว่า 10 เมตรทางเจ้าหน้าที่ อบต.ย่านซื่อ ได้เข้าตรวจสอบพร้อมรายงานผู้รับผิดชอบเข้าทำการตรวจสอบแก้ไขแล้ว ขณะเดียวกัน ทาง จ.อ่างทองได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่ ต.โผงเผงที่เป็นแอ่งกระทะ ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งแล้ว
ปทุมธานีฝนถล่มท่วม200หลังคา
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านทรงพล หมู่ที่ 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากกรณี ฝนตกหนักเมื่อคืน จนทำให้น้ำไหลเข้าถนน และบ้านเรือนประชาชน ทำให้ข้าวของได้รับความเสียหาย บางจุดระดับน้ำท่วมกว่า 1 เมตร และยังท่วมในตัวบ้านชั้นล่างอีกด้วยทำข้าวของเสียหายจำนวนมาก รวมมีผู้เดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน
ชาวต.โผงเผงผวาน้ำเอ่อ
ที่ จ.อ่างทอง ชาวบ้านที่อยู่ใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม ต่างเตรียมรับมือเก็บข้าวของเครื่องใช้หนีน้ำขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำระลอกใหม่ที่กำลังจะไหลผ่าน ซึ่งบ้านเรือนของประชาชนในหมู่ที่ 5 และ 6 ได้รับผลกระทบมีน้ำเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นใต้ถุนบ้าน จำนวน 5–6 หลังคาเรือน ในส่วนของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังต่างสำรวจเสาหลัก และเชือกที่ใช้ยึดกระชังปลาว่ามีความสมบูรณ์ในการใช้งาน พร้อมรับกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้น
6ตำบลเมืองอุทัยฯเสี่ยงวิกฤติ
นายฐกร กาญจน์จิรเดช ผอ.โครงการชลประทานอุทัยธานี กล่าวว่า ผลพวงจากพายุ “ราอี” ทำให้มวลน้ำจากภาคเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นทุกวัน ปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 1,526 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากการไหลผ่านของน้ำในจุดดังกล่าวถึง 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ ต.หากทะนง ต.เนินแจง ต.หนองไผ่แบน ต.สะแกกรัง ต.เกาะเทโพ และ ต.ท่าซุง อ.เมืองอุทัยธานี ทันที
ชาวต.เขาครามร้องแช่น้ำเป็นเดือน
น.ส.กัลยารัตน์ เหล่ชาย อยู่บ้านเลขที่ 376 หมู่ที่ 1 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ได้กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ติด ถ.เพชรเกษม และอยู่ติดกับมัสยิดบ้านไร่ยาว ขณะนี้ ทั้งบ้านของตน และเพื่อนบ้านอีกหลายหลังคาเรือน รวมทั้งมัสยิดด้วย ได้ถูกน้ำท่วมมาเกือบเดือนแล้ว ทรัพย์สินภายในบ้าน ตู้เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องใช้อื่นๆ ได้รับความเสียหายหมดเกลี้ยง ภายในบ้านถูกน้ำท่วมสูงถึงกว่า 1 เมตร ไม่สามารถเข้าไปนอนพักในบ้านได้มาเกือบเดือนแล้ว ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
น้ำทะลัก ต.บางม่วงระลอก6
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณซอยธารทองใต้ ม.4 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ต้องใช้ชีวิตแบบอยากลำบาก เนื่องจากปริมาณน้ำจากคลองบางม่วง เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 40 ครัวเรือนเป็นระรอกที่ 6 หลังจากมวลน้ำที่ไหลมากจากเขาบ้านดอกแดง ลงสู่คลองบางม่วงเพื่อระบายลงสู่ทะเลได้เพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง จนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน โดยบางรายได้รับความเดือดร้อนข้าวของเครื่องใช้ ที่นอน ทีวี ตู้เย็น ถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหาย