(17 พ.ค.64)จากกรณีที่พ.ต.ท.วิทยา ทิพยเลิศ อดีตนายตำรวจสังกัด ภ.จว.จันทบุรี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค2 ถูกให้ออกจากราชการเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2542 เนื่องจากทำผิดวินัยร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์
ที่มิควรได้ อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และต่อมาพ.ต.ท.วิทยาได้อุทธรณ์คำสั่งไล่ออกต่อศาลปกครองสูงสุด จนศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2556 ให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งเท่ากับว่าพ.ต.ท.วิทยา ไม่มีความผิด สมควรได้รับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อันพึงจะได้รับ แต่
ปัจจุบันเวลาได้ล่วงเลยมานานถึง 8 ปี พ.ต.ท.วิทยาก็ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนดังกล่าวแต่อย่างใด จึงได้ร้องขอให้นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ประสานให้ความช่วยเหลือ ซึ่งนายวัชระได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 ล่าสุด
สถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี(ภ.จว.จันทบุรี)ได้มีหนังสือแจ้งกลับมายังพล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือก.ตร.โดยได้ทำหนังสือ
ไปตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2556 เสนอไปยังผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.)แจ้งว่าพ.ต.ท.วิทยา มีสิทธิ์ได้รับเงินเดือนระหว่างถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนเต็มจำนวนตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.2542 จนถึงวันเกษียณราชการ รวมทั้งเงินบำเหน็จ บำนาญด้วย และจากการตรวจสอบพบว่าพ.ต.ท.วิทยา เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์พิจารณาเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
โดยเสมือนว่าพ.ต.ท.วิทยาไม่เคยถูกออกจากราชการจึงมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนจำนวน 0.5 ขั้นต่อรอบการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน (6 เดือน)ด้วย ด้านนายวัชระ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณพล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นอย่างยิ่งที่ให้ความช่วยเหลือพ.ต.อ.วิทยาอย่างรวดเร็ว เหตุที่มายื่นหนังสือกับพล.ต.อ.ศรีวราห์เพราะเรื่องไม่จำเป็นต้องยื่นถึงนายกรัฐมนตรีทุกเรื่อง ประเทศไทยมีปัญหามาก ตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีขวัญกำลังใจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะให้ความเป็นธรรมแม้อาจจะช้ามากถึง 8 ปีก็ตาม ความยุติธรรมมาช้า แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย