วันที่ 13 พ.ค.64 เวลา 11.00 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม. ซอยสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธรรอง,พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.ตม.จ.นครพนม ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ต่างด้าวทะลักเข้าไทย หวั่นแพร่เชื้อโควิด เดือนเดียวจับได้กว่าครึ่งร้อย
เพื่อสนองนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีสั่งการให้ สตม.ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองของบุคคลต่างด้าว อันเป็นที่มาของการนำพาเชื้อไวรัสโควิด–19 เข้ามาแพร่ระบาดภายในประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชั้นในที่ต้องอาศัยแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 จึงสั่งการให้ ด่าน ตม.จ.ในสังกัด บก.ตม.4 ตรวจเข้มในพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีเขตแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งให้เกิดผลปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ตม.จ.นครพนม ได้รับรายงานจากสายข่าวไม่ประสงค์ออกนามว่ามีขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมือง โดยทยอยลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวนั่งเรือข้ามมาฝั่งไทย เพื่อหางานทำโดยมีปลายทางในพื้นที่จังหวัดชั้นใน อันอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงรุนแรงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเกิดซุปเปอร์สเปรดเดอร์ของเชื้อไวรัส ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรงในระยะยาว
ทั้งนี้มีการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยอยู่บ่อยครั้ง ตามนโยบายของ ผบก.ตม.4 ได้เน้นย้ำให้มีการตรวจเข้มตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.นครพนม จึงได้วางแผนตรึงกำลังเข้มตลอดแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองรวมถึงสกัดเครือข่ายลักลอบขนคนเข้าเมือง ซึ่งจะนำพาบุคคลต่างด้าวที่ไม่ผ่านการตรวจสกัดหรือคัดกรองโรค เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดเดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวและกัมพูชา จำนวน 52 ราย รวมถึงจับกุมตัวบุคคลผู้ให้ที่พักซ่อนเร้นแก่บุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกสองราย โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายวิรัตน์ฯ ขณะใช้รถยนต์บรรทุกรับบุคคลต่างด้าวที่รับมาจากจุดต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครพนม
เมื่อสอบถามนายวิรัตน์ฯ รับว่าตนได้รับการติดต่อจากนายหน้าไม่ทราบชื่อเป็นชาวลาว ให้ไปรับบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวตามจุดนัดพบต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครพนม โดยมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.นครพนม จึงได้วางแผนจับกุม โดยสามารถจับกุมนายธีระพงษ์ฯกำลังซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม ขณะเตรียมนำพาบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้าสู้พื้นที่จังหวัดชั้นในต่อไป จึงแจ้งข้อกล่าวหา นายวิรัตน์ฯ และนายธีระพงษ์ฯ ว่ากระทำผิดข้อหา “ให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น รอดพ้นจากการจับกุม” จึงนำตัวส่งพงส.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.กฤษฎาฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่
507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน