ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจ้ยและนวัตกรรม (อว.) งานยุ่งทั้งวัน ตกเย็นแล้ว วันที่ 2 พ.ค.64 จึงมีโอกาสอวยพร Happy Birthday ให้กระทรวง (อว.) อายุครบสองปีแล้วในวันนี้เอง ขอส่งความปรารถนาดีและระลึกถึงมายังบุคคลากรของเราทุกประเภท ทุกชั้น ทุกระดับ ทุกหน้าที่การงาน และขอขอบคุณที่ช่วยกันทำงานให้กระทรวงอย่างแข็งขันมาตลอดในรอบปี
(อว.) เป็นกระทรวงแรกที่ตั้งขึ้นมาในรัชกาลที่ 10 และเมื่อเร็วๆนี้ ยังได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้ “พระวชิระ” ซึ่งเป็นตราประจำพระองค์รัชกาลที่ 6 มาประกอบเป็นเครื่องหมายประจำกระทรวงฯ ด้วย
กระทรวง (อว.) ที่ก่อตั้งขึ้นมาสองปีก่อน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 บัดนี้เป็นกระทรวงที่มีขนาดใหญ่ทีเดียว มีคณาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ข้าราชการ พนักงานรัฐฯ หลากหลายประเภท รวมกันประมาณ 2.2 แสนคน มีนิสิตนักศึกษาทุกระดับที่ต้องดูแล ถึงประมาณ 2 ล้านคน
ในรอบปีที่ผ่านมา ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ของเราได้ก้าวสู่ขั้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เครื่องมือ และหยูกยา ที่เป็นระดับไฮ-เทคได้อย่างชัดเจน อาทิพัฒนาวัคซีนไฮ-เทคสำหรับป้องกันไวรัสโควิด-19 สามชนิด ขณะนี้กำลังทดลองในคนขั้นสุดท้าย พัฒนาวิธีผลิตยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับรักษาโรคโควิด-19 ได้ด้วยตนเองและจะผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมต่อไป เมื่อหลายเดือนก่อน หลายหน่วยงานของ (อว.) ก็รวมกันเป็นคอนซอร์เทียมเพื่อสร้างดาวเทียมและยานอวกาศขึ้นมาเอง และตั้งมั่นว่าจากนี้ไป 7 ปี เราจะส่งยานอวกาศวิจัยไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างที่ผมขอยกขึ้นมา เพื่อบอกว่า (อว.) มีความพร้อมที่จะผลักดันให้ประเทศได้ใช้วิทยาศาสตร์ดีดตัวเองออกจาก “กับดักประเทศรายได้ปานกลาง” ในอนาคตอันใกล้
ทว่า (อว.) ในเวลานี้ ขอย้ำ ก็ไม่ได้เน้นแต่วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เราส่งเสริมศิลปวิทยาการในทุกด้าน เมื่อต้นปีนี้ จึงได้จัดตั้งวิทยสถานด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ “ธัชชา” ขึ้นมา เพื่อสร้างหรือเพื่อสนับสนุน ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย ส่งเสริมงานศิลปกรรม จิตรกรรม รวมถึงช่างศิลป์ท้องถิ่น โลกคดี และการต่างประเทศ ยังมีเศรษฐกิจพอเพียง และวิทยาการโบราณคดีเกี่ยวกับสุวรรณภูมิ ด้วยเป็นต้น เราจะผลักดันไทยให้ออกจากกับดักรายได้ปานกลาง โดยอาศัยทั้งวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี และ ทั้งศิลปวิทยาการสร้างสรรค์-เชิงวัฒนธรรม ด้วย
ที่น่าดีใจที่สุด ในความเห็นผม (อว.) ทั้งที่เป็นมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษารูปแบบอื่นๆ และที่เป็นหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และศิลปวิทยาการทั้งปวง กลมเกลียวกลมกลืนกันมาก โดยเฉพาะที่เป็นอุดมศึกษานั้น ขอย้ำ ไม่ว่าจะเป็นประเภทใด รัฐหรือเอกชน เก่าหรือใหม่ ใหญ่หรือเล็ก ก็ตาม มีความรักสามัคคี ให้เกียรติกันและกัน ช่วยกันและกัน ร่วมแรงร่วมใจ ทำงานสำคัญๆ ในยามที่มีวิกฤตโควิด-19 สำเร็จผล ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ว่าได้ หรือจะพูดว่าทำได้สำเร็จมาต่อเนื่องไม่ขาดสายก็ว่าได้
กรณีมหาวิทยาลัยสู่ตำบล หรือ U2T ก็ดี หรือการที่มหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศทุกประเภท ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และมหาดไทย และหน่วยอื่นๆ ของรัฐบาล สร้าง รพ.สนาม นับหมื่นๆ เตียงขึ้นมาชั่วพริบตาเดียวก็ดี เป็นนิมิตหมายว่า (อว.) จากนี้ไปจะเก่งทั้ง “ในหอคอยงาช้าง” และจะ “ออกจากหอคอยงาช้าง” มาพัฒนาประเทศไปด้วยเสมอ และในยามชาติมีวิกฤตเมื่อไร (อว.) ก็พร้อมจะยาตราออกมาเป็น “กองหนุน” ที่มีทั้งปริมาณ มีทั้งคุณภาพ มีทั้งวิทยาการ มีทั้งฝีมือ (อว.) มีทั้งสมอง มีทั้งหัวใจ ครับ
สุขสันต์วันเกิด (อว.)
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน