การแข่งขันฟุตบอลอีเอฟแอล คัพ อังกฤษ รอบสาม เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ทีม”สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของทีม”สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี
เกมนี้ทั้งสองทีมจัดผู้เล่นลงสนามแบบผสมระหว่างตัวจริงและตัวสำรอง โดย เลสเตอร์ ใช้ ชินจิ โอคาซากิ เป็นกองหน้า คู่กับ อาเหม็ด มูซ่า ส่วนทีมเยือน ส่ง ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังที่เพิ่งคว้าตัวมาเสริมทัพออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ขณะที่กองหน้าให้โอกาส มิชี่ บัตชัวยี่
ครึ่งแรก เป็นเจ้าบ้านที่เริ่มต้นที่ดีกว่า ได้ประตูนำก่อน ถึง 2-0 โดย ชินจิ โอคาซากิ หัวหอกชาวญี่ปุ่นยิงคนเดียวทั้งสองลูก นาที 17 และ 34
อย่างไรก็ตามช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 45+2 เชลซี มาได้ประตูตีไข่แตกจาก แกรี่ เคฮิลล์ ไล่มาเป็น 1-2
หลังจากนั้น เชลซี มาได้ประตูตีเสมอจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า นาที 50
ท้ายครึ่งหลัง เลสเตอร์ เหลือ 10 คน มาร์ซิน วาซิลเลฟสกี้ ไปทำฟาวล์ ดีเอโก้ คอสต้า ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง พร้อมโดนใบแดงออกจากสนาม ในนาที 89
อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือทั้งสองทีมยิงประตูกันเพิ่มไม่ได้ จบ 90 นาที เสมอกัน 2-2 ต้องไปเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
เริ่มช่วงต่อเวลาพิเศษได้ไม่นาน เชลซี ที่ได้เปรียบเรื่องจำนวนตัวผู้เล่นแก้เกมมาอย่างดี และได้ประตูขึ้นนำ 3-2 จาก เชสก์ ฟาเบรกาส นาที 92 ก่อนที่อีก 2 นาทีต่อมา มิดฟิลด์ชาวสเปน จะมายิงลูกที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ ช่วยให้ทีมเยือนหนีห่างเป็น 4-2 ในนาที 94
ส่วนช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง ไม่มีฝ่ายไหนยิงประตูเพิ่มได้ จบเกม เชลซี บุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2
ผลคู่อื่น น็อตติงแฮม ฟอร์เรสต์ แพ้ อาร์เซนอล 0-4, ดาร์บี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3, เอฟเวอร์ตั้น แพ้ นอริช 0-2, ไบรห์ตัน แพ้ เรดดิ้ง 1-2, ลีดส์ ชนะ แบล็กเบิร์น 1-0, นิวคาสเซิล ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 และ บอร์น มัธ แพ้ เปรสตัน ในการเล่นต่อเวลาพิเศษ 2-3