วัชระ ตอก “เต้น” หน้าหงายหลังออกจาก “คุก” มาเชิดชูแก๊ง 3 นิ้ว ชี้ย้อนดูอดีตสร้างความหายนะให้บ้านเมืองนับไม่ถ้วนยังไม่สำนึก !!
วันนี้ (12ม.ย.64) จากกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ออกมาปราศรัยสดุดีแกนนำม๊อบ 3 นิ้ว พร้อมหยิบแมสรูปภาพ นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ถูกคุมขังจาก ม.112และม.116 โดยกล่าวว่านอกจากป้องกันเชื้อระบาดและยังจะป้องกันเชื้ออุบาทว์ได้ด้วย ขณะเดียวกันยังพูดถึงเหตุการณ์ของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันเมื่อ 11 ปีที่แล้วว่า”พวกคุณจำได้ไหมที่พวกคุณไล่ยิงไล่ฆ่าผมกลางถนนและพวกเมื่อ 11ปีที่ผ่านมา ผมกลับมายืนตรงนี้อีก ถ้าพลเอกประยุทธ์รักลูกสาวฝาแฝด2คนขนาดไหน พ่อแม่ของเพนกวิน รุ้ง ไผ่และเด็กทุกคนในเรือนจำก็รักลูกสุดหัวใจเหมือนกัน ขอบอกน้องๆเยาวชนหนุ่มสาวที่กำลังต่อสู้อยู่ทุกคน ในนามคนเสื้อแดง ผมสำนึกบุญคุณของคนหนุ่มสาว ถ้าหากถึงวินาทีที่หัวใจต้องตัดสินว่าจำเป็นแล้วที่จะต้องทำหน้าที่ปกป้องคนหนุ่มสาวอีกครั้ง จะแจ้งให้ทราบอีกทีขอให้คนเสื้อแดงทั้งหลายปรบมือให้กับลูกหลานของพวกเรา” แล้ววันต่อมายังโฟสต์เฟซบุ๊กว่าตนมาดีนั้น
นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายณัฐวุฒิเคยปราศรัยปลุกระดมผ่านทีวีเสื้อแดงว่า”ถ้าคุณยึดอำนาจ ผมให้เผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง ถ้าใครจะจับมาเอากับผม อย่างที่ผมบอกคนเสื้อแดงขี้ตกใจ หากยิงตูม คนเสื้อแดงจะวิ่งเข้า(ห้าง)เกษร พารากอน วิ่งเข้าโรงแรม แนวโน้มการตกใจมีหลายประการ บางคนตกใจวิ่งหากระเป๋าแบรนด์เนม บางคนตกใจวิ่งเข้าหาเครื่องประดับ ทอง เพชร บางคนตกใจชอบขับรถเข้าไปในห้าง บางคนตกใจจุดไฟเข้ามาก็มี” ต่อมามีจลาจล เผาบ้านเผาเมืองใจกลางกรุงเทพฯ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี
คนเสื้อแดงเผา พี่น้องเสื้อแดงถูกจำคุก ตายในคุก บาดเจ็บล้มตายบ้านแตกสาแหรกขาด ไม่ได้เรียนหนังสือ เรื่องทั้งหมดนี้นายณัฐวุฒิรับผิดชอบอย่างไรบ้าง การที่นายณัฐวุฒิบอกว่าใส่แมสป้องกันเชื้อระบาดหรือเชื้ออุบาทว์ ก็ไม่แน่ใจว่าจะป้องกันเชื้ออุบาทว์เข้าหรือป้องกันเชื้อออกกันแน่ การพูดปลุกระดมของนายณัฐวุฒิไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวจากคุกให้เร็วกว่าโทษปกติก็ตาม
นายวัชระ ระบุว่า ตนเชื่อแล้วว่าคุกไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีเสมอไป และคนที่เคยเป็นรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีมาตรฐานตามประมวลจริยธรรมทุกคน นายณัฐวุฒิบอกว่าเขาถูกไล่ล่า แล้วกองกำลังชายชุดดำมาจากไหน ใครเผาบ้านเผาเมือง ใครบาดเจ็บล้มตายทุกฝ่าย ประชาชนและเด็กผู้บริสุทธิ์ทำไมต้องถูกอาวุธสงครามล้มตายด้วย บาปเก่ายังไม่สำนึก กลับปลุกระดมยกย่องแกนนำ3นิ้วที่ทำผิดกฎหมายแล้วบอกว่าคอยดูการตัดสินใจของตนเอง แล้วบอกว่าตนมาดีนั้นใครจะเชื่อบ้าง ต้องย้อนไปฟังคำพูดของนายสุจินต์ พิมเสน อดีตผู้อำนวยการร.ร.เมืองนครศรีธรรมราชในฐานะอาจารย์ผู้ปั้นนายณัฐวุฒิให้เป็นนักพูด นายสุจินต์เชื่อว่าเพราะเงินตัวเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป แต่นายณัฐวุฒิกลับบอกว่าอาจารย์เคยเห็นเงินร้อยล้านหรือเปล่า เงินร้อยล้านเคยเห็นแล้วและจับต้องได้ เคยจับต้องแล้ว จึงอย่าได้แปลกใจว่าเหตุใดนายณัฐวุฒิยังคงเป็นเช่นนี้ แล้วพี่น้องเสื้อแดงนับล้านๆคนได้จับต้องเงิน100ล้านแบบนายณัฐวุฒิหรือไม่ การที่นายณัฐวุฒิเชิดชูวีรกรรมและสำนึกในบุญคุณแกนนำ3นิ้วแล้วย้อนไปถึงพลเอกประยุทธ์ว่ารักลูกมากปานใด พ่อแม่ของแกนนำ3นิ้วก็รักมากปานนั้น เมื่อนายณัฐวุฒิยกย่องว่าแกนนำ3นิ้วทำถูก ทำเพื่ออนาคตของประเทศ เหตุใดนายณัฐวุฒิไม่ส่งลูกๆของตนมาอ่านสคริปขึ้นเวทีม็อบ3นิ้วแบบเพนกวิน รุ้ง ไผ่ อานนท์หรือน้องมายด์บ้าง เพราะได้ข่าวว่ามีคารมคมคายไม่แพ้ผู้เป็นบิดา ซึ่งภรรยานายณัฐวุฒิเป็นผู้เปิดเผยเองในการเข้าคุกครั้งหลังสุดของนายณัฐวุฒิว่าลูกถามดิฉันว่า”คราวนี้พ่อโดนกี่ปี” นายณัฐวุฒิอาจไม่ได้รักแกนนำม็อบ 3 นิ้วมากเท่าลูกในไส้ของตนก็ตาม แต่ขอให้เห็นแก่ลูกๆของนายณัฐวุฒิด้วย เพราะยังไม่ทราบว่าเหลืออีกกี่คดีี
และประการสำคัญคำพูดของนายณัฐวุฒิ ถ้าหากมีประชาชนไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่าคำพูดหมิ่นเหม่ต่อสถาบันหรือเข้าข่ายผู้สนับสนุนให้เยาวชนให้กระทำความผิดตามม.112และม.116 ก็อาจมีปัญหาทางกฎหมายติดตามหลอกหลอนนายณัฐวุฒิได้ในที่สุด และถ้าถามว่าทำไมต้องออกมาดักคอนายณัฐวุฒิ เพราะไม่เชื่อว่ามาดีนั่นเอง พฤติกรรมที่ผ่านมาคือคำตอบอย่างดี จากนี้ไปจะไม่ยอมให้นายณัฐวุฒิปลุกระดมฝ่ายเดียวทำให้คนหลงเชื่อเข้าใจผิดอีกแล้ว