วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 10.30 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย,พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม.,ว่าที่ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์ สุภาพรผกก.กก.ปอพ.บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.กก.3 บก.สส.สตม.,ว่าที่ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.,พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ สวญ.ตม.จ.ปราจีนบุรี
ได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า เจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม.,ร.ต.อ.อดิศร บุญชุ่ม
รอง สว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม.,ร.ต.ท.เอกชัย ปุกหุต รอง สว.กก.4 บก.สส.สตม.,ส.ต.ต.รดิศ สิทธิประศาสน์ ผบ.หมู่ กก.4.บก.สส.สตม.,ส.ต.ต.สืบสกุล สุขเสนีย์ ผบ.หมู่ กก.4.บก.สส.สตม.,ส.ต.ต.หญิง วิชญาดา พูลสมบัติ
ผบ.หมู่ กก.4.บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปชก.สตม. ร่วมทำการสืบสวนกรณีที่มีประชาชนเข้ามาร้องเรียนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่ามีการปล่อยเงินกู้ผ่านแอพพลิเคชั่น NEGU,NICE LOAN , CASH CARD,CASH LOAN และมีการเรียกดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มนายทุนของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเป็นกลุ่มคนจีน ซึ่งได้มีการว่าจ้างคนไทยให้ทำการปล่อยสินเชื่อเงินกู้ และทำการติดตามทวงหนี้ โดยมีการตั้งบริษัทขึ้นมาอยู่ที่บริเวณแขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอหมายค้นต่อศาลอาญาธนบุรีและศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าทำการตรวจค้นที่บริษัทแห่งหนึ่ง ถ.ท่าข้าม ซ.เทียนทะเล 7 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และบ้านหลังหนึ่ง ซ.สาธุประดิษฐ์ 41 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พบคนไทย จำนวน 30 คน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวน 30 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง และสมุดบัญชีที่ใช้ในการโอนเงินและรับเงินกว่า 20 บัญชี
โดยทำการจับกุมตัว MS.WEI (เหว่ย) ปกปิดนามสกุล อายุ 34 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.121/2564 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลโดยผิดกฎหมายและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด,MS.HAI (หาย) ปกปิดนามสกุล อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.122/2564 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลโดยผิดกฎหมายและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด,MR.YU (ยู) ปกปิดนามสกุล อายุ 34 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.126/2564 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2564 “ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลโดยผิดกฎหมายและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
จากการสืบสวนขยายผลทราบว่าขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งมี MR.WANG สัญชาติจีน
อยู่ที่ประเทศจีนเป็นหัวหน้าในการควบคุมดูแลทุกอย่างของกิจการ ซึ่งจะมี MS.HAI ทำหน้าที่ในการหาบัญชีที่ไทย และส่งโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง บัตรกดเงินและซิมการ์ดส่งไปให้ที่ประเทศจีน อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการเปิดบริษัท รับสมัครพนักงาน โดย MS.WEI จะเป็นคนดูแลในเรื่องของการแลกเปลี่ยนเงินข้ามประเทศ ที่ทางขบวนการที่อยู่ในประเทศจีนต้องการโอนเงินเข้ามาที่ประเทศไทย ส่วน MR.YU
เป็นคนที่ MR.WANG ส่งให้เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยเพื่อดูแลระบบในการปล่อยสินเชื่อและการติดตามทวงหนี้
ทั้งนี้จากการสืบสวนขยายผลพบว่ามีผู้เสียหายที่เป็นผู้กู้มากกว่า 20,000 คนและมีเงินหมุนเวียนในบัญชีที่ใช้ในการโอนและรับเงินจากผู้กู้กว่า 30 ล้านบาท โดยในการกู้เงินแต่ละครั้งจะถูกหักค่าธรรมเนียม 30–35 เปอร์เซ็นต์ เช่น กู้ 2,000 บาท จะได้รับเงินเพียง 1,300 บาท และเมื่อครบ 7 วันจะเสียดอกเบี้ย 7 บาท หากไม่ชำระจะเสียค่าปรับ 100 บาท และดอกเบี้ยอีกร้อยละ 1 ต่อวัน โดยความผิดฐานประกอบกิจการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั่งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั่งแต่ 1 แสน ถึง 5 แสนบาท และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน