วันที่ 12 มี.ค.64 บก.ปคม. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัช ปิ่นประยงค์,พ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง,พ.ต.อ.ฐากูร นิ่มสมบุญ,พ.ต.อ.อภิรักษ์ เวชกาญจนา,พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์,พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม.,พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.,พ.ต.ท.ดุสิต จิตรขุนทด,พ.ต.ท.สุรวัช สัตยากุล รอง ผกก.5 บก.ปคม.
โดยเมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปคม. ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมกำลังได้ให้สายลับเข้าทำการล่อซื้อบริการทางเพศ เด็กหญิงอายุ 15-16 ปี ผ่าน น.ส.นิตยาฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่อยู่ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
น.ส.นิตยาฯ ได้แนะนำ น.ส.เอฯ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ให้ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องซื้อบริการทางเพศพร้อมกันด้วย น.ส.เอฯ ถึงจะยอมขายบริการทางเพศให้ เมื่อตกลงกันได้แล้วสายลับที่ล่อซื้อ และ น.ส.นิตยาฯ ได้นัดหมายกันที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดย น.ส.นิตยาฯ จะเป็นคนพา น.ส.เอฯ มาด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้สายลับสองคนไปเปิดห้องที่โรงแรมม่านรูดดังกล่าวรอ เมื่อถึงเวลานัด น.ส.นิตยาฯ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มา โดยมี น.ส.เอฯ นั่งซ้อนท้ายมาด้วย มาจอดที่ห้องที่สายลับได้เปิดรอไว้
จากนั้น น.ส.นิตยาฯ และ น.ส.เอฯ ได้ต่างแยกกันเข้าห้องโรงแรมม่านรูดที่สายลับทั้งสองคนได้เปิดรอไว้ เมื่อทำการล่อซื้อสำเร็จ สายลับจึงได้ส่งสัญญานให้กับชุดจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.จึงได้เข้าทำการแสดงตัว และจับกุมตัว น.ส.นิตยาฯ และได้เข้าทำการช่วยเหลือ น.ส.เอฯ อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย
จากการสอบถาม น.ส.นิตยาฯ ให้การรับสารภาพว่าตนได้พา น.ส.เอฯ มาขายบริการจริง ก่อนจะควบคุมตัว น.ส.นิตยาฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดำเนินคดีในข้อหา “ค้ามนุษย์ (ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี) โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี (พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 6),เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539),เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ป.อาญา ม.282),บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ม.26(3)),รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจากผู้ค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ (ประมวลกฎหมายอาญา ม.286 (2)(4 )”
ส่วน น.ส.เอฯ (ผู้เสียหาย) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวให้กับ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านเกร็ดตระการ) จ.นนทบุรี เพื่อเข้ากระบวนการช่วยเหลือผู้เสียหาย และทำการสืบสวนขยายผลผู้กระทำความผิดในขบวนการนี้ต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน