จากความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทย ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ที่เพิ่งปิดฉากลงไป นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นผลงานของทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยในพาราลิมปิกเกมส์ที่ยอดเยี่ยมมาก หลังจากช่วยกันทำผลงาน 6 ทอง 6 เงิน 6 ทองแดง ซึ่งต้องชื่นชมในความมุ่งมั่น ความเป็นนักสู้ของนักกีฬาไม่ว่าจะได้เหรียญหรือไม่ก็ตาม  ทั้งนี้ รัฐบาล กำลังหาวันที่เหมาะสมในการจัดงานเลี้ยงฉลองชัย และจัดขบวนแห่รอบเมืองให้ประชาชนร่วมยินดี ซึ่งจะจัดอย่างยิ่งใหญ่เหมือนในกีฬาโอลิมปิกเกมส์  และมอบเงินรางวัลรางวัลแห่งความสำเร็จให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ รวมถึงสมาคมกีฬา อีกด้วย

            ส่วนเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้เตรียมมอบเงินรางวัลให้แก่นักกีฬา โดยมี 2 แนวทาง ได้แก่  รับเงินสดก้อนเดียว 100 เปอร์เซ็นต์ เหรียญทอง 6 ล้านบาท เหรียญเงิน 4 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2.5 ล้านบาท  (ผู้ฝึกสอนจะได้รับ 20 เปอร์เซนต์ของยอดเงินรางวัล ,สมาคมกีฬา จะได้รับ 30 เปอร์เซนต์ของยอดเงินรางวัล) โดยยอดเงินรางวัลจะแบ่งเป็นนักกีฬา 120,500,000 บาท, ผู้ฝึกสอน 24,100,000 บาท, สมาคมกีฬา 12,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 156,600,000 บาท

ขณะที่แนวทางที่ 2 คือ รับเงินสด และแบ่งจ่าย 4 ปี สัดส่วนละ 50 เปอร์เซนต์ จะได้รับมากขึ้นในเกณฑ์ เหรียญทอง 7.2 ล้านบาท เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท ยอดเงินรางวัลจะสูงขึ้น แบ่งเป็น นักกีฬา 144,600,000 บาท, ผู้ฝึกสอน 24,100,000 บาท สมาคมกีฬา 12,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 180,700,000 บาท

ทั้งนี้  พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่ง วัย 21 ปี เป็นนักกีฬาไทยที่ได้เหรียญรางวัลมากที่สุดจาก ผลงาน  2 เหรียญทอง  จากวีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม.ชาย ที 53, วีลแชร์เรซซิ่ง 800 ม.ชาย ที 53 และ 2 เหรียญเงิน จากวีลแชร์เรซซิ่ง 100 ม.ชาย ที 53, ผลัด 4×400 ม. ชาย ที 53-54 หากนักซิ่งดาวรุ่งต้องการรับเงินรางวัลตามเกณฑ์ที่ 1 จะได้รับทันที 20 ล้านบาท แต่หากรับตามเกณฑ์ที่ 2 จะได้เงินรางวัลรวม 24 ล้านบาท