สบู่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียจะไม่สามารถขายได้ในร้านขายของชำในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป องค์การอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐอมเริกาเพิ่งทำการรับรองส่วนประกอบ 19 อย่างในสบู่ที่ห้ามใช้ ซึ่งการห้ามใช้ส่วนประกอบเหล่านี้จะส่งผลกระทบในอีกหนึ่งปีข้างหน้า สารประกอบส่วนใหญ่ที่ถูกแบนนั้นมาจากการโฆษณาว่าเป็นสารที่ใช้ในการฆ่าเชื้อเจิร์ม
อะไรที่ทำให้ FDA ออกมาเคลื่อนไหว สิ่งนั้นก็คือ คำว่า “ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย” โดยปกตินั้น มีความหมายว่า สบู่นั้นสามารถที่จะหยุดการแพร่เชื้อของเชื้อเจิร์มได้ ในความจริงแล้ว “พวกเราไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บอกได้ว่าสบู่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียนั้นดีกว่าสบู่ธรรมดากับน้ำได้อย่างไร” Janet Woodcock กล่าว เธอเป็นผู้อำนวยการของ FDA’s Center for Drug Evaluation and Research เมื่อสามปีก่อน FDA ได้ทำการขอให้ผู้ผลิตสบู่ทำการส่งผลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสบู่เหล่านั้น แต่พวกเขาไม่สามารถทำการพิสูจน์ได้ว่าสารเคมีเหล่านั้นทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ดีกว่าสบู่ทั่วไปในการกำจัดเชื้อเจิร์ม
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ข้อมูลบางอย่างแนะว่า สารเคมีที่ใช้กำจัดเชื้อเจิร์มเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้อีกด้วย
สารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคนั้นสามารถทำการฆ่าเชื้อเจิร์มได้ แต่ปริมาณที่ต่ำนั้นไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพที่มากพอ เชื้อเจิร์มเหล่านี้ที่ไม่ได้ถูกฆ่าอาจจะวิวัฒนาการตัวเองให้ต่อต้านสารเคมีเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันสัมผัสกับสารเคมีปริมาณที่น้อยมากๆ และเมื่อสารเคมีเหล่านี้ถูกล้างออกไปในท่อระบายน้ำลงไปยังสิ่งแวดล้อมภายนอก พวกมันจะถูกทำให้เจือจางลงอีก เมื่อเชื้อแบคทีเรียพัฒนายีนที่สามารถต่อต้านสารฆ่าเชื้อได้แล้ว มันสามารถที่จะแบ่งปันยีนเหล่านี้ให้กับเชื้อเจิร์มอื่นๆ ในที่สุด เชื้อเจิร์มจำนวนมากอาจจะเริ่มต่อต้านสารเคมีที่ใช้ในกลุ่มนี้ได้
สารเคมีที่จะถูกห้ามใช้ในเร็วๆนี้คือ triclosan และ triclocarban พวกมันเป็นสารเคมีสองชนิดที่ถูกใช้กันอย่างกว้างขวางสำหรับการเป็นยาฆ่าเชื้อที่ไม่ต้องการใบสั่งยาของแพทย์ ในแต่ละปี การผลิตสบู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ triclosan ประมาณ 363,614 กิโลกรัมและ triclocarban ประมาณ 640,000 กิโลกรัม
ความกังวลเกี่ยวกับ triclosan
รายงานเกี่ยวกับ triclosan ใน Science News เมื่อ 15 เดือนก่อนชี้ให้เห็นว่า “ในมนุษย์ สารเคมีนี้ปรากฎในเลือด ปัสสาวะ น้ำนม สายสะดือ และน้ำมูก” ความเสี่ยงทางสุขภาพของสาร triclosan ที่เข้าไปในร่างกายนั้นยังไม่มีใครรู้ได้ อย่างไรก็ตาม ในจมูก นักวิจัยพบว่า น้ำมูกที่มี triclosan อยู่ช่วยให้เชื้อ Staphylococcus aureus เข้าสู่ร่างกายได้ การบุกรุกเช่นนี้เพิ่มความเสี่ยงให้กับการติดเชื้อ และสามารถเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคปอดบวมได้
Triclosan ที่ถูกล้างออกไปเมื่อคนเราทำการล้างมือจะไหลผ่านไปยังโรงงานบำบัดน้ำเสียในเมือง สารนี้สามารถส่งผลกระทบต่อเชื้อแบคทีเรียที่ทำหน้าที่ในการย่อยสลายสิ่งปฏิกูลได้ การศึกษาแนะให้เห็นว่า สารเคมีนี้สามารถที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดีได้ด้วย และมันสามารถทำให้เชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นนั้นแข็งแรงขึ้น