วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) : นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล พร้อมทนายความ ประสานเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อรับฟังการสอบปากคำ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ หลังถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมที่บ้านพักซอยเพชรเกษม 44 ในความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน รวม 3 ข้อหา พร้อมลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.ท.เอกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อให้ตรวจสอบบุคคลที่มีฉายาว่า “พ่อบ้านโย” เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นกับการจับกุม “เสี่ยโป้” ในครั้งนี้
นายสันธนะฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่าจะมีการจับกุมบ่อนการพนัน ที่พัวพันเรื่องทางการเมือง ตนก็เข้าใจว่าคงเป็นบ่อนย่านเตาปูน แต่ไม่คิดว่าจะเป็น “เสี่ยโป้” แม้ “เสี่ยโป้” จะไม่เคยปฏิเสธว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับเว็บการพนันออนไลน์ แต่ตนก็รู้สึกผิดหวังกับปฏิบัติการครั้งนี้ คิดว่าการแจ้งข้อหาชักชวนให้เล่นพนันและการจับกุมครั้งนี้เป็นเรื่องเกินกว่าเหตุ เพราะหากต้องการจะจับกุมจริงๆ ไม่ต้องนำกำลังไปขนาดนี้ เพียงโทรศัพท์ไปหา “เสี่ยโป้” เลยก็ได้ การนำกำลังไปแบบนี้ ก็เหมือนเป็นการตีไก่ ตีเมืองขึ้น หากจะจับ “เสี่ยโป้” ให้ไปจับ “สมชายระยอง”-“บ่อนลอยฟ้า” หรือบ่อนพนันอื่นๆ ก่อนดีกว่า “เสี่ยโป้” ก็เป็นเหมือนเหยื่ออารมณ์ ไม่ได้มีฤทธิ์เดชอะไร ตนเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา จึงพาทีมทนายความเข้ามาขอพบกับ “เสี่ยโป้” เพื่อพูดคุยในฐานะที่ปรึกษา พร้อมให้ตรวจสอบคนที่ชื่อว่า “พ่อบ้านโย” เพราะเขาไปบ่อนได้ทุกที่ คนในวงการก็รู้ว่าเป็นมือของใคร
“ตอนนี้รู้มาว่า กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน แห่งหนึ่ง เปิดรับตั๋วแล้ว และที่ตำรวจไม่กล้าจับ “สมชาย” ก็เพราะรับส่วยมาหรือไม่ เพราะ “สมชาย” สั่งมาหรือไม่ เป็นการตัดตอนหรือไม่ ตัว “เสี่ยโป้” เอง ก็เคยไปมาหาสู่กับ “สมชาย” หากจับ “สมชาย” ได้ คนอื่นๆ ก็ตามมากันหมด แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อาจไม่เหลือคนทำงานอยู่เรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้นอีกมาก ไปถาม “พ่อบ้านโย” ได้เลย นายคนนี้ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน แต่จะกิจการอะไรนั้นไม่ทราบ รู้เพียงว่าเขาสามารถยืนข้างๆ คอยกระซิบนายตำรวจใหญ่ๆ ได้” นายสันธนะฯ กล่าวในที่สุด
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน