วันที่ 3 ก.พ.64 เวลา 14.00 น. ที่ บก.ปอท. : ดร. ธีรเศรษฐ พัฒน์วราพงษ์ คณะทำงานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏร พากลุ่มผู้เสียหายรวม 10 คนเดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ศักดิ์ศรณ์ เจริญศิลป์ รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบผู้เสียหายหลายคนแจ้งความ สน.ท้องที่มาแล้ว ก่อนแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.แทน
ดร.ธีรเศรษฐฯ เปิดเผยว่า ตนพาผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อซิมการ์ดมือถือ-อินเตอร์เน็ตจากเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง โอนเงินแล้วไม่ได้ของ มาแจ้งความ บก.ปอท. เพื่อให้ช่วยสืบสวนสอบติดตามคนรับผิดชอบมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นาย เอ. (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวชื่อ” Import Group สินค้านำเข้าราคาถูกแห่งประเทศไทย”ขายสินค้าหลายชนิด แต่ที่พวกเราสนใจเป็นโปรโมชั่นซิมเทพเน็ตไม่อั้น FLASH SAIL 1 ฟรี 1 ปี ของสองค่ายใหญ่ โทรฟรี เน็ตฟรี 1 ปีเต็ม เน็ต 10 Mbps ไม่ลดสปีด 1 ปี พร้อมโทรฟรีทุกเครือข่าย ราคาซิมละ 999 บาท
ซึ่งปรากฏว่ามีผู้หลงเชื่อสั่งซื้อซิมดังกล่าวจำนวนมาก โอนเงินชำระสินค้าแล้วแต่ไม่ได้รับของที่สั่งซื้อ
เมื่อทวงถามทางเพจดังกล่าวได้บล๊อคไม่ให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นก่อนจะปิดเพจไปในที่สุด
เบื้องต้นผู้เสียหายที่ซื้อแล้วไม่ได้ซิมเทพดังกล่าวรวมตัวตั้งไลน์กลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ล่าสุดมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้ว 2,900 กว่าคน มูลค่าความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท
ตรวจสอบพบว่าเพจดังกล่าวได้ซื้อต่อมาจาก
เพจ “แคปชั่นเด็ดโดนใจ” ที่เปิดใช้งานเมื่อ 21 ก.พ.60 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเพจ “Import Group สินค้านำเข้าราคาถูกแห่งประเทศไทย” ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนกว่า 3 หมื่นคน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการหลอกขายสินค้า
นอกจากนั้นยังพบว่าผู้เสียหายบางคนได้รับสินค้าเป็นซิมมาแล้วแต่เมื่อแกะออกตรวจดูกลับใช้งานได้ไม่ตรงตามที่ประกาศ บางรายใช้ได้แค่เดือนเดียวก็หมด ต้องให้เติมเงินเพิ่ม บางรายได้ซิมไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ กลายเป็นซิมราคาแค่ 99 บาทส่งมาให้แทน
ทั้งนี้ก่อนมาแจ้งความ บก.ปคบ. ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ บก.ป.เมื่อวันที่ 27 ม.ค.64 ตรวจสอบพบว่าเพจดังกล่าวมีพฤติการหลบหนี ปิดเพจ จึงได้ประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)
และเมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 ผู้เสียหายพากันไปแจ้งความ บก.ปอศ.ตรวจสอบแล้วแจ้งผู้เสียหายว่าน่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของ บก.ปอท. วันนี้จึงเดินทางมา บก.ปอท.แต่เมื่อพบพนักงานสอบสวน ปอท.แล้วแนะนำให้แจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.แทน
“ในช่วงโควิด-19 ระบาด ทางรัฐบาลต้องการให้ประชาชนทำงานที่บ้าน เรามีความจำเป็นต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ การที่เพจดังกล่าวหากินบนความลำบากของพี่น้องประชาชนในช่วงเวลาวิกฤติเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้” ดร.ธีรเศรษฐฯ คณะทำงาน กมธ. ปปช. กล่าวในที่สุด
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน