นายฉลอง เรี่ยวแรง ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 2 จากกลุ่มพลังนนท์ ได้นำหลักฐานเป็นภาพคลิปวีดีโอซึ่งเป็นภาพของนายนิจฯ หัวคะแนนของ พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 3 กลุ่มผึ้งหลวงได้ขี่รถจักรยานนำเงินพร้อมเอกสารหาเสียงของผู้สมัครหมายเลข 3 ของกลุ่มผึ้งหลวงไปยื่นให้กับเจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่งโดยพูดย้ำว่าให้เลือกผู้สมัครคนดังกล่าว ทางเจ้าของร้านชำเกรงว่าจะมีความผิดฐานขายเสียง จึงได้นำคลิปดังกล่าวไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำมาคลิปดังกล่าวมาให้กับนายฉลอง เรี่ยวแรง หลังจากนายฉลองฯ นำคลิปไปลงเพจนายนิจฯ ได้เข้ามาขอร้องเจ้าของร้านชำให้ช่วยลบคลิปออกและได้บอกกับเจ้าของร้านชำว่าเวลาให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้บอกว่าเป็นการซื้อเสียงแต่ให้บอกว่าเป็นการใช้หนี้
กล้องวงจรปิดวันที่ 19 ธ.ค.63 เวลา 07.03 น.จับภาพนายนิจ หัวคะแนนได้ปั่นจักยานมาจอดบริเวณหน้าร้านขายของชำก่อนจะหยิบเอกสารที่ตะกร้าหน้ารถแล้วเดินเข้าไปภายในร้าน นำเงินจำนวน 300 บาทพร้อมด้ายเอกสารการเลือกตั้งของผู้สมัครหมายเลข 3 ส่งให้เจ้าของร้านชำสักพักได้เดินออกมาก่อนจะปั่นรถจักรยานออกไป ต่อมาวันที่ 23 ธ.ค.63 เวลา 13.00 น.นายนิจฯ คนเดิมเดินเข้ามาภายในร้านชำอีกครั้งได้พูดกับเจ้าของร้านชำสักพักแล้วเดินออกไป หลังจากนั้นเวลา 16.26 น.วันเดียวกันมีชายเสื้อสีขาวเดินเข้ามาภายในร้านแล้วพูดคุยกับเจ้าของร้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแล้วเดินกลับออกไป
นายฉลอง เรี่ยวเเรง ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 2 จากกลุ่มพลังนนท์ กล่าวว่า หลังจากคลิปหัวคะแนนนำเงินมาซื้อเสียงเจ้าของร้านชำจำนวน 300 บาทมาซื้อเสียงเเพร่ออกไป ทางหัวคะแนนฝั่งของผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 3 พยามยามให้ทางเจ้าของร้านชำลบคลิป แต่ตนได้เก็บคลิปเสียงส่วนตัวไว้ซึ่งคลิปที่ลงไปในเพจตนได้ตัดเสียงออกไปแต่คลิปที่ตนเก็บไว้มีความยาวหลายนาทีและเสียงพูดคุยชัดเจน เพื่อที่จะไปยื่นให้กับทาง ก.ก.ต.และยังมีหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งเห็นภาพตอนที่มีลุงคนนึงนำเงินมาให้ทางเจ้าของร้าน 300 บาทเเละพูดว่าให้เลือกเบอร์ 3 ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นธรรมกับการหาเสียงเพราะทำให้เสียภาพพจน์จังหวัดนนทบุรี
จึงอยากวอนทางสื่อมวลชนเพราะต้องการความโปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และไม่อยากให้คนอื่นโดนแบบตน อยากให้มาตฐานการเลือกตั้งแบบยุติธรรมและสุจริต โดยตนมีหลักฐานมากพอจึงอยากดูมาตฐานการทำงานและให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง และอยากให้มีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางเข้ามาดูเเลเเทนในการเลือกตั้งครั้งหน้า และกาคะเเนนไว้ที่บอร์ดเพื่อให้ประชาชนดูเพื่อเห็นผลความชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ จึงอยากได้ความเป็นธรรมให้ลูกทีมและไม่ควรเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้เปลี่ยนคณะกรรมการการตรวจสอบเเต่ละพื้นที่สับเปลี่ยนกันไปจะได้ไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น
จากการสอบถามเจ้าของร้านชำแห่งหนึ่งที่หัวคะแนนนำเงินมาซื้อเสียงให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า วันที่ 19 ธ.ค.63 เวลาประมาณ 07.00 น. มีลุงคนนึงเดินเข้ามาและยื่นเงินให้ตน ตนจึงถามว่าเงินค่าอะไรลุงคนนั้นจึงบอกกับตนว่าให้เลือกเบอร์ 3 กับ เบอร์ 5 ให้ด้วย ตนมองดูว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงเเจ้งไปทางผู้สมัครเพื่อให้ทราบ ตนจึงถ่ายคลิปจากกล้องวงจรปิดส่งให้ผู้สมัคร โดยคลิปหลุดออกไป กระทั่งมีคนโทรเข้ามาหาตน เเละข่มขู่ให้ลบคลิป ซึ่งตอนเเรกตนได้ปฏิเสธไปว่าไม่ใช่ตนที่เป็นคนส่งคลิปเพราะกลัว และลุงคนดังกล่าวได้เข้ามาหาตนอีกครั้งเพื่อขอให้ตนลบคลิป ถัดมาอีกวันตนได้เข้าไปเเจ้งความ มีเบอร์แปลกโทรศัพย์มาเเนะนำให้ตนลบคลิป เเนะนำว่า ให้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเงินส่วนนั้นเป็นเงินที่ลุงนำมาใช้หนี้ โดยให้ยืนยันว่าไม่ใช่เงินที่มาจากการซื้อเสียง ซึ่งเรื่องจริงไม่ได้เป็นเงินที่ใช้หนี้ หลังจากนั้นตนกลับมาที่บ้านมีกำนันสุพจน์ฯ เข้ามาเชิญตัว เพราะ สจ.คนหนึ่งเรียกให้มาเคลียร์ แต่ตนตอบไปว่าไม่สะดวกเพราะกลัวมาก มีคนแปลกหน้าเข้ามาวนเวียนเเถวบ้านอยู่บ่อยครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นคนของกำนันคนกังกล่าว
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน