(11 ม.ค.64)เมื่อเวลา 15.55 น.ที่อาคารรัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่สารบาญถึงนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานกรรมการตรวจการจ้าง กรรมการและที่ปรึกษาทุกคน เพื่อคัดค้านกรณีนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ได้สั่งการให้คณะกรรมการตรวจการจ้างร่วมกับผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง และผู้แทนจากสำนักอัยการสูงสุดพิจารณางดหรือปรับลดค่าปรับให้บริษัทคู่สัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ตามสัญญาเลขที่ 116/2556
นายวัชระ กล่าวว่า ตนในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีอากรเต็มจำนวน และมีส่วนได้เสียตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ขอคัดค้านแนวคิดและคำสั่งการของนางพรพิศที่ได้มีหนังสือลงวันที่ 4 มกราคม 2564 ถึงบริษัทผู้รับเหมาเพื่อเรียกค่าปรับเนื่องจากผิดสัญญาโดยระบุว่า บัดนี้ได้ครบกำหนดเวลาทำงานแล้วเสร็จตามสัญญาดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้รับจ้างทำงานไม่แล้วเสร็จอันเป็นการผิดสัญญาซึ่งตามเงื่อนไขสัญญาผู้รับจ้างจะต้องจ่ายค่าปรับเป็นรายวันวันละ 12,280,000 บาท( สิบสองล้านสองแสนแปดหมื่นบาทถ้วน)และค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ควบคุมงานและที่ปรึกษาบริหารโครงการเป็นจำนวนเงินวันละ 332,140 บาท( สามแสนสามหมื่นสองพันหนึ่งร้อยสี่สิบบาทถ้วน) นับถัดจากวันที่ครบกำหนดเวลาทำงานตามสัญญา(วันที่ 1 มกราคม 2564) จนถึงวันที่ผู้รับจ้างทำงานแล้วเสร็จ การงดหรือปรับลดค่าปรับตามกฎหมายเป็นอำนาจและหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการ ดังนั้น หากคณะกรรมการมีมติเกินกว่าอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้ และหากเข้าข่ายเอื้ออำนวยประโยชน์แก่บริษัทเอกชน ไม่รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ หากคณะกรรมการมีมติอย่างหนึ่งอย่างใดทำให้รัฐเสียหายแม้แต่น้อย ตนจะยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ลงมติทุกคนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ทันที เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ