วันที่ 7 ม.ค.64 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้ บก.ตม.1 นำโดย พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1,บก.ตม.3 นำโดย พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3,บก.สส.สตม.นำโดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) หน.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองดังนี้
เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีบ้านในชุมชนแห่งหนึ่ง มีคนต่างด้าวมาพักอาศัยในชุมชนดังกล่าวฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้จัดกำลังไปตรวจสอบ เมื่อถึงชุมชนฯ ได้มาพบกับ ประธานชุมชนฯ ชื่อ นายนัทธีฯ โดยการนำเจ้าหน้าที่ไปที่บ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านริมคลองมีประตูเหล็กปิดอยู่โดยการใช้โซ่คล้องแล้วล็อคด้วยแม่กุญแจไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกับผู้ให้เช่าบ้านและแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับกรณีคนต่างด้าวดังกล่าวให้ทราบ ผู้ให้เช่าบ้านจึงยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน ประธานชุมชนฯ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ของชุมชนฯ ทำการตัดโซ่ที่คล้องประตูเหล็กดังกล่าวไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในพบบ้านไม้ มีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น พบบุคคลต่างด้าวนั่งรวมกันอยู่บริเวณ ชั้น 2 จำนวน 15 คน และหลบอยู่ในห้องน้ำอีกจำนวน 3 คน รวมทั้งหมดจำนวน 18 คน เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้ไปรวมกันที่บริเวณชั้น 1 ของบ้าน เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอตรวจสอบเอกสาร (หนังสือเดินทาง) บุคคลต่างด้าวทั้ง 18 คน ซึ่งไม่สามารถแสดงหนังสือเดินทางได้
ผู้ให้เช่าบ้านได้แจ้งเบาะแสเพิ่มเติมว่า ผู้เช่าบ้าน 2 ชั้น หลังดังกล่าว ชื่อนางระมัยฯ และได้ซื้อบ้านไว้อีกหลังหนึ่งบริเวณท้ายซอยเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบบ้านท้ายซอยดังกล่าวพบ นาย ฮุสซาฯ อายุ 28 ปี สัญชาติเมียนมาร์ จึงขอตรวจสอบเอกสาร (หนังสือเดินทาง) ซึ่งนาย ฮุสซาฯ ไม่สามารถแสดงเอกสาร (หนังสือเดินทาง) ให้เจ้าหน้าที่ดูได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และล่ามภาษาโรฮีนจา เพื่อให้ร่วมตรวจสอบบุคคลต่างด้าวในบ้านดังกล่าว พร้อมขอใช้พื้นที่บริเวณ สน.ดอนเมือง เพื่อคัดแยกตรวจโรคคนต่างด้าว โดยมีล่ามภาษาโรฮีนจาให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ จากการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว
กรณีกลุ่มแรก จำนวน 5 คน ให้การเบื้องต้นว่า วันที่ 24 ธ.ค.63 เวลา 06.00 น. เดินทางออกจาก อ.แม่สอด จ.ตาก โดยรถยนต์เก๋งไม่ทราบสีและไม่ทราบหมายเลขทะเบียน วันที่ 25 ธ.ค.63 เวลา 03.00 น. เดินทางมาถึงดอนเมืองกรุงเทพฯ โดยลงรถบริเวณลานปูนเยื้องทางข้ามสะพานเข้าไปที่พัก แล้วเข้าไปที่พัก โดยที่พักมีหญิงไทยชื่อนางระมัยฯ กับนายบาบูฯ เป็นผู้เช่าบ้านพัก โดยอาศัยอยู่ในห้องตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.63 ถึง 3 ม.ค.64 รวมเวลาทั้งสิ้น 10 วัน
กรณีกลุ่มที่สอง จำนวน 13 คน ให้การเบื้องต้น รับว่าเดินทางออกจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์ มาที่เมืองย่างกุ้ง ทางเรือ จากย่างกุ้ง ใช้เส้นทางผ่านเมืองเมาะลำไย โดยรถยนต์ ค้าง 1 คืน แล้วจากเมาะลำไย มาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยรถยนต์ ผ่านช่องทางธรรมชาติ คืนวันที่ 31 ธ.ค.63 นอนพักบ้านไม้ชั้นเดียว 1 คืน จากนั้นเดินทางออกจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ในคืนวันที่ 1 ม.ค.64 (ไม่แน่ใจช่วงเวลา) มาถึง กทม. ช่วงประมาณ 5 ทุ่ม ของวันที่ 2 ม.ค.64 และพักภายในบ้านหลังเกิดเหตุ
กรณีที่สาม นายฮุสซา อะฮามา ให้การเบื้องต้นว่า วันที่ 24 ธ.ค.63 เข้ามาประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จากนั้น ขึ้นรถทัวร์ โดยมีคนไทยไม่ทราบชื่อเพศชายซื้อตั๋วและนั่งรถมาด้วย มาลงที่ สถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) จากนั้นมีการติดต่อกับหญิงไทยชื่อนางระมัยฯ วันที่ 25 ธ.ค.63 เดินทางมาถึงดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยนั่งรถแท็กซี่ (ไม่ทราบช่วงเวลาที่แน่นอน) และได้อาศัยอยู่ในบ้านพัก ภายในซอยแห่งหนึ่ง แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง ถึง 3 ม.ค.64 รวมเวลาทั้งสิ้น 10 วัน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวคนต่างด้าวทั้งหมด ไปที่ สน.ดอนเมือง ส่งพนักงานสอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ทำการซักถามข้อมูลเพิ่มเติม จากการสอบถามผู้ถูกจับกลุ่มแรกและกลุ่มที่สอง และ นายฮุสซาฯ รวม 19 คน ให้การสอดคล้องตรงกันว่า ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยการช่วยเหลือของนางระมัยฯ และนายบาบูฯ (Mr.Husein) สัญชาติเมียนมาร์ แต่กลุ่มผู้ถูกจับไม่ได้ต้องการมาทำงานในประเทศไทย ต้องการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการตรวจสารคัดหลั่งของผู้ถูกจับทั้งหมด เพื่อตรวจสอบเชื้อไวรัสโควิด-19 (ทราบผลในวันที่ 4 ม.ค.64 มีผู้ติดเชื้อฯ จำนวน 7 ราย)
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ ได้ร่วมกันทำการสืบสวนขยายผล โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้นำชุมชนฯและประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งสอบปากคำผู้ถูกจับเพิ่มเติม เพื่อรวบรวบพยานหลักฐานต่างๆ จนพนักงานสอบสวนสามารถนำไปยื่นขอศาลอาญาออกหมายจับนางระมัยฯ และนายบาบูฯ (Mr.Husein) สัญชาติเมียนมาร์ ได้ ในข้อหา “ร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และเจ้าหน้าที่ฯจะทำการสืบสวนขยายผลต่อจนถึงขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน