วันที่ 60 มค.64 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบฝูงช้างป่าอ่างฤไน บุกมายึดพื้นที่เกษตรกรเป็นแหล่งหากินพืชผลการเกษตรเสียหายเกือบครึ่ง ชาวไร่ต้องจัดคนคุ้มกันให้แขกที่มารับจ้างเก็บหัวมันสัมปะหลังในไร่ หากไม่มีคนคุ้มกันเกรงจะได้รับอันตรายจากช้างฝูงช้างป่า ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหลังสำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ม.10 ต เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบสวนบวบแตงกวาถูกช้างป่าทำลายเสียหาย เจ้าของไม่กล้ามาเก็บผลผลิตไปขายพื้นดังกล่าวติดบ้านเขาจันทร์ ต.ท่ากระดาน
อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของไร่มันจ้างแขกมาเก็บหัวมันสัมปะหลังต้องจัดคนมาคอยคุ้มกัน เนื่องจากว่าฝูงช้างป่าอ่างฤไนประมาณ 30 ตัว มาอยู่ป่าอ้อย ยึดเป็นที่กินนอนตั้งแต่ปีใหม่ยังไม่ไปไหนที่นี่
มีสระน้ำขนาดใหญ่ มีทั้งไร่อ้อย ไร่มันสัมปะหลังกว่าพันไร่ ช้างป่าจะออกมาหาถอนหัวมันกินกลางวันออกทาถอนหัวมันกิน แขกเก็บหัวมันอยู่เพลินๆช้างเดินมาใกล้ๆพากันวิ่งหนี จึงต้องจัดคนมาคอยคุ้มกันให้แขกเก็บหัวมัน ช้างแบ่งอยากเขตโดยถอนเสารั้วรวดหนามพังเป็นแถวยาว ปิดทางเข้าใกล้ห่างกัน 50 เมตร พักกินข้าวกลางวันช้างส่งเสียงร้องลั่นป่าบางทีไล่กันในป่าอ้อยฝุ่นตลบอบอวน บางทีพากันวิ่งเตลิดออกมาจากป่าอ้อยจึงต้องยิงปืนขู่ฝูงช้าง นายสนั่น
(ขอสงวนชื่อและสกุลจริง) ชาวสนามชัยเขต เจ้าของไร่มันสัมปะหลังเขตติดต่อต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า กลัวช้างก็กลัว แต่ก็ต้องมาเก็บผลผลิตทางการเกษตรไปขาย บางวันเจอฝูงช้างล้อม
หน้าล้อมหลังมาแล้วหลายครั้ง ทำได้ยิงขู่ให้ช้างกลัวหนีเข้าป่าห่างจากไร่ 50 เมตร พื้นที่บริเวณนี้ยังพอมีป่าไม้เบญจพรรณเป็นแนวยาว ช้างจังมาอยู่บริเวณนี้ซึ่งห่างจากแหล่งอาศัยราว 15 กม.อยากให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ผลักด้นช้างไปอยู่ที่อื่นไม่รู้ช้างจะไปหรือไม่ ไปอยู่ทางโน้นไม่กี่วันก็กลับมาอีก ในไร่นี้อยู่ประจำเห็นทุกวันคนปลูกมันไม่เท่าไหร่ คนปลูกอ้อยทำใจป่าอ้อยลาบเป็นหน้ากองเสียหายเกือบครึ่ง ขณะที่เฝ้าดูอยู่นั้นช้างป่าวิ่งไล่กันในป่าอ้อย และส่งเสียงร้องลั่นจึงยิงปืนขู่ เกรงว่าช้างจะวิ่งมาทำร้ายบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์