วันที่ 5 ม.ค.64 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6,พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6,พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าว
สืบสวน ตม.6 สกัดกั้นจับกุมคนลาว 20 คน ลักลอบเข้าเมืองผ่านนายหน้า เสี่ยงโควิดระบาดซ้ำ
ด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการกำชับให้เพิ่มความเข้มในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บก.ตม.6 โดย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ตร. อย่างเคร่งครัด และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานด้านตรวจคนเข้าเมือง และความมั่นคงนั้น
กก.สส.บก.ตม.6
ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6,พ.ต.อ.ภคยศ ทะนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 นำโดย ร.ต.ท.วิสูตร ลือชา,ร.ต.ท.ภัทภูมิ จาตกานนท์ รอง สว.กก.สส.บก.ตม.6 พร้อมกำลังได้ร่วมกันจับกุม คนต่างด้าวสัญชาติลาวจำนวน 20 คน เนื่องด้วย กก.สส.บก.ตม.6 ออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ หลังสืบทราบจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งใดแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่เป็นจุดพักเพื่อเดินทางผ่านของแรงงานต่างด้าวในการเดินทางกลับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนต่อมาได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการรถโดยสารรับจ้างสาธารณะ ว่าพบเห็นกลุ่มชายลักษณะคล้ายคนต่างด้าวรวมตัวนั่งรับปะทานอาหารอยู่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนด้านข้างสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารอาคารพานิชย์
จากนั้นจึงได้ประสานขอสนธิกำลัง ร่วมกับ ตม.จ.สงขลา,สภ.หาดใหญ่ และ กก.3 บก.ทท.3 บช.ทท. เดินทางเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นกลุ่มคนต่างด้าวชาย สัญชาติลาว จำนวน 20 คน จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนต่างด้าวได้แสดงหนังสือเดินทางเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการประทับตราอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด จึงได้ควบคุมกลุ่มคนต่างด้าวดังกล่าวมายังที่ทำการ ตม.จ.สงขลา และประสานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ เพื่อคัดกรองเชื้อโควิด-19 ตรวจสอบและดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้อง
สืบเนื่องมาจากการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน 20 คน ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ กก.สส.บก.ตม.6 ได้สืบสวนขยายผลไปยังเส้นทางของขบวนการลักลอบนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งคนต่างด้าวหนึ่งในผู้ถูกจับได้ให้ข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์กับทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า พวกตนทั้งหมดเป็นแรงงานภาคธุรกิจประมงในประเทศมาเลเซีย แต่เนื่องจากเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เจ้าของกิจการได้ทยอยเลิกจ้างแรงงานต่างด้าวและเป็นคนดำเนินการว่าจ้างนายหน้าทั้งฝั่งมาเลเซียและไทย เพื่อให้นำพาพวกตนข้ามมายังประเทศไทย โดยต้องการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการเดินทางกลับไปยัง สปป.ลาว ด้วยการนั่งเรือเล็กข้ามฟากแม่น้ำโก-ลก มายังฝั่ง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งมีรถยนต์ 2 คันและรถกระบะ 2 คัน คอยรอรับเพื่อนำคนต่างด้าวทั้งหมดมาส่งยังสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานี โดยมีนายหน้าเป็นผู้ดำเนินการซื้อตั๋วรถโดยสารให้เดินทางมายังสถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ จนถูกจับกุมในที่สุด โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประมาณ 530 ริงกิตมาเลเซีย
ชุดปฏิบัติการ กก.สส.บก.ตม.6 จึงได้ขยายผลการจับกุมไปยังพื้นที่จังหวัดปัตตานี และเก็บข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี ตามข้อมูลที่ได้รับจากคนต่างด้าวผู้ถูกจับกุม พบว่าข้อมูลที่ได้รับสอดคล้องกันกับภาพวงจรปิด และมีการนำพาคนต่างด้าวทั้ง 20 รายมาส่งยังสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานีจริง ซึ่งมีร่วมขบวนการทั้งสิ้น 4 คัน โดยสามารถยืนยันช่วงเวลาในการเดินทางตั้งแต่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มายัง สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี จากการตรวจสอบระบบเฝ้าตรวจป้ายทะเบียนยานพาหนะ ซึ่งพบว่ามีการแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจนในการกระทำความผิด แสดงให้เห็นถึงการลักลอบนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นขบวนการ และการลงพื้นที่ขยายผล ชุดสืบสวนยังได้จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน 2 ราย ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี จากการรับแจ้งจากนายสถานีขนส่งฯว่า พบคนมีลักษณะคล้ายคนต่างด้าวได้เข้ามาใช้บริการภายในสถานี โดยผู้ถูกจับให้การว่าได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย และข้ามฟากมายัง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 คน ได้โดยสารรถโดยสารประจำทางมายังสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานีด้วยตนเอง ไม่ได้มีนายหน้าหรือบุคคลใดมารับ จากกรณีการจับกุมคนต่างด้าว ชุดจับกุมได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป
ในห้วงเดือน ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น หน่วยงานในสังกัด บก.ตม.6 ได้สกัดกั้นจับกุมการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการจับกุมมีดังนี้
ตม.จ.นราธิวาส จับกุมหลบหนีเข้าเมือง 101 ราย และนำพา,ช่วยเหลือฯ 2 ราย
ตม.จ.สตูล จับกุมหลบหนีเข้าเมือง 11 ราย
ตม.จ.สงขลา จับกุมหลบหนีเข้าเมือง 26 ราย
โดยการจับกุมทุกครั้งมีการขยายผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทราบถึงกระบวนการการนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขยายผลไปสู่การจับกุมขบวนการดังกล่าวและวางแนวทางในการป้องกันต่อไป
พล.ต.ต.สุเมธฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่น การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใดๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน