น.อ.จุมพจน์ เสนาะพิณ รองผอ.ศรชล จ.สตูล บูรณาการกำลังหลายฝ่าย ทหารเรือภาค 3 ,สถานีเรือละงู ,ทหารจากร้อยร.5 พัน 2 จ.สตูล ทหารจากกองกำลังเทพสตรี, เจ้าท่า จ.สตูล, หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ สตูล,เจ้าหน้าที่ป่าชายเลนที่ 24 ,ตำรวจน้ำ, ตชด.436 ,ตม.จ.สตูล และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูล สนธิกำลังทางน้ำ ใช้ยุทธ์การเดินหน้ากระดานปิดหน้าทะเลทางช่องทางธรรมชาติ ลงทะเลขึ้นฝั่ง เกาะแนวเขตสกัดกั้นหวั่นแรงงานต่างด้าวและคนไทยในต่างแดนหลบหนี้เข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย ไม่ผ่านเจ้าหน้าที่รัฐโดยนำเรือออกลาดตระเวนตามเกาะแก่งที่อยู่ใกล้ป่าชายเลน และเทือกเขาที่ติดแนวเขตประเทศมาเลเซีย จากนั้นเรือยางเรือเร็ว เรือตรวจการณ์จอดเทียบทาในพื้นที่บริเวณนากุ้งร้าง จากนั้นเปิดปฏิบัติการเดินเท้าทันที ไปยังพื้นที่แนวเขตรอยต่อพรมแดนฝั่งแผ่นดินที่ติดกับทะเล มีรั้วกำแพงสูงกั้นแนวเขตระหว่างจังหวัดสตูล ประเทศไทย ติดแนวเขตรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียที่มีกำแพงกั้นตรงกลางพร้อมลวดหนาม หากไม่มีกำแพง ก็สามารถข้ามได้เพียงไม่ถึง 10 ก้าวจากฝั่งไทยโดยพื้นที่รั้วกำแพงดังกล่าวนั้นอยู่ในพื้นที่เขต ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล พบบ้าน จำนวน 3 หลังอยู่ใกล้กำแพง และทางทหารเรือตรวจสอบเป็นชาวบ้านอาศัยอยู่บริเวณนั้น
ด้านน.อ.จุมพจน์ เสนาะพิณ รองผอ.ศรชล จ.สตูล กล่าวว่า เนื่องจากสภาพการแพร่ระบาดของโควิด 19 อยู่ในขณะนี้ ซึ่ง พื้นที่ จ.สตูลเอกได้มีการพบว่ามีผู้ป่วยแล้วจำนวน 2 ราย และ1 ใน นั้นได้มีการเดินทางไปพบปะผู้คนอีก นับร้อยคน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ร่วมกันเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในพื้นที่ เขตรอยต่อระหว่างสตูล-เปอร์ลิส นั้น เป็นพื้นที่ ผู้ลักรอบเข้ามาเมืองสามารถที่จะเดินทางได้หลายช่องทาง โดยเฉพาะทางกิโล 0 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดกับรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย และมีแนวเขากั้นเขตแดน ทำให้ ผู้ที่ลักรอบสามารถเดินเข้ามาได้ เลย หรือ แม้กระทั้งการเดินทางเข้ามาทางเรือก็ง่าย เนื่องจากแนวเขตชายฝั่งนั้น สามารถเดินลัดเลาะแนวชายฝั่งเข้ามาได้ ทาง ศรชล จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อ ร่วมกันในการลาดตระเวร ทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อไม่ให้ แรงงาน หลบหนี้ เข้ามา หรือแม้นกระทั้งขนส่งสินค้าหนีภาษี เข้ามาในพื้นที่ ได้
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล