วันที่ 28 ธ.ค.63 เวลา 13.30 น. ณ โถงชั้น 1 อาคาร 2 สตม.(สวนพลู) กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด,พ.ต.ท.นพรัตน์ จงเชิดชูตระกูล รอง ผกก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด,พ.ต.ท.จักรพรรดิ ปะถาปะตา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด,ว่าที่ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม.
ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันจับกุม นายสมชัย อายุ 42 ปี สัญชาติไทย ในข้อหา“สนับสนุนให้แรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 3780/2563 และมี MS.LWIN อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา,MS.MAY อายุ 28 ปีสัญชาติเมียนมา,MR.KYAE อายุ 34 ปีสัญชาติเมียนมา,MR.WAI อายุ 25 ปีสัญชาติเมียนมา และ MR.AYE อายุ 44 ปีสัญชาติเมียนมา ในข้อหา “เป็นแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 3780/2563
สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม. สืบสวนหาข่าวการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยฝ่าฝืนกฎหมาย จนทราบว่ามีกลุ่มขบวนการธุรกิจนายหน้าชาวเมียนม่า ร่วมกับคนไทยที่ประกอบกิจการรถตู้รับจ้างโดยมีพฤติการณ์รับจ้างขนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ที่มีการควบคุมบุคคลต่างด้าวห้ามเคลื่อนย้ายเข้าและออกพื้นที่ โดยรับแรงงานต่างด้าวตามสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามที่นายหน้าชาวเมียนม่าได้แจ้งมาและนำไปส่งยังชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก
ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า หากแรงงานต่างด้าวที่รับจ้างขนนั้นมีหนังสือเดินทาง จะคิดค่าจ้างรายละประมาณ 800–1,200 บาท แต่ถ้าหากไม่มีหนังสือเดินทาง จะคิดค่าจ้างรายละประมาณ 4,000–5,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม.ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีรถตู้รับจ้างไม่ประจำทาง (ป้ายเหลือง) เข้ามารับขนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จ.ปทุมธานี,จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ โดยจะใช้เส้นทางถนนสรงประภา แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ในการเดินทาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการควบคุมและเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม.จึงวางกำลัง เฝ้าสังเกตการณ์ตามบริเวณดังกล่าว จนถึงเวลาประมาณ 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบรถตู้รับจ้างโดยสาร (ป้ายเหลือง) สีน้ำเงิน ทะเบียน กรุงเทพฯ ตามที่สายลับแจ้ง กำลังแล่นตามถนนสรงประภา แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังถนนศรีสมาน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม.จึงติดตามรถตู้คันดังกล่าวไป แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเรียกให้รถตู้คันดังกล่าวจอด เพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อรถตู้คันดังกล่าวจอด จากการตรวจสอบคนขับพบว่ามีนายสมชัยฯ เป็นผู้ขับรถตู้คนดังกล่าว โดยยอมรับว่าได้รับบุคคลต่างด้าวทั้ง 5 คน มาจาก จ.ปทุมธานี,จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ เพื่อไปส่งต่อยังรถตู้ที่รอรับอีกทอดหนึ่ง เพื่อนำส่งต่อไปที่ชายแดนไทย- พม่า ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม. จึงทำการจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดนนทบุรี ได้มีคำสั่งประกอบกับ พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า-ออก พื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.พันธนะฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน