วันที่ 28 ธ.ค.63 : พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สําราญ นวลมา รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ,พ.ต.ท.อัครพล โทยะ,พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์,พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร,พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ รอง ผกก.สายตรวจ,พ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 กองกํากับการสายตรวจ ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.รมิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีเทา หมายเลขทะเบียน ฌค 2987 กทม.,ป้ายทะเบียนรถยนต์ ฌค 2987 กทม.และป้ายภาษีรถยนต์ โดยจับกุมได้หน้าบ้านเลขที่ 19/21 ถ.กรอกยายชา ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า ตนเองเป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีเทา หมายเลข ทะเบียน ฌค-2987 กทม. และได้รับใบสั่งความเร็วจากกก.3บก.ทล. ให้ไปชำระค่าปรับในฐาน
ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่จํากัดไว้ตามป้าย” ซึ่งในวันเวลาดังกล่าวตนไม่ได้เดินทางไป ทล.36 กม.26 (ขาออก) ต.มะขาม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง แต่อย่างใด ต่อทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ภายหลังทางเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ1 กก.สายตรวจ ได้ทำการสืบสวนพร้อมประสานข้อมูลกับทางตำรวจทางหลวง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้จับกุมตัวน.ส.รมิดาฯ พบรถยนต์โตโยต้า แคมรี่ สีเทา หมายเลขทะเบียน ฌค-2987 กทม. ขับมาจอดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 19/21 ถ.กรอกยายชา ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าตรวจสอบโดยมีน.ส.รมิดาฯ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองรถดังกล่าว
สอบสวนให้การรับว่ารถดังกล่าวเป็นของนายบิ๊กฯ ซึ่งเป็นเพื่อนของตนนํามาฝากไว้ประมาณ 2 เดือนแล้ว และปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อตรวจสอบเลขตัวถังปรากฎว่าหมายเลขตัวถังจดทะเบียนในนามของน.ส.มณีทิพย์ ถมรรคชัย ซึ่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ 3091 ระยอง จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมกับทางผู้ต้องหา พร้อมกันนี้ทางผู้ต้องหาต้องจ่ายค่าปรับจากใบสั่งที่เกิดขึ้น โดยหลังจากนี้ได้ประสานไปทางไฟแนนซ์ของรถคันดังกล่าวรวมทั้งสืบสวนว่ารถคันดังกล่าวมีการแจ้งหายไว้หรือไม่ เนื่องจากพล.ต.ต.สําราญ นวลมา รอง ผบช.น. มีนโยบายเน้นหนักในการปราบปรามขบวนการลักลอบ ปลอมแปลงป้ายทะเบียนรถยนต์
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า หากผู้ใดซื้อรถยนต์จากบุคคลอื่น ให้ทำการตรวจสอบเอกสารและรถยนต์ว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ และหากได้รับใบสั่งโดยที่ท่านไม่ได้เดินทางไปยังสถานที่ตามใบสั่ง และคิดว่าจะมีการสวมทะเบียนรถยนต์ของท่านให้แจ้งข้อมูลมาที่สายด่วน 191 หรือ สน.ในท้องที่ ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวมีอัตราโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปีและปรับตั้งแต่ 1,000 บาทถึง 10,000 บาท
Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน