เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอม้กล้าเจ้าอยู่ เสด็จประพาสเมืองลพบุรีเมื่อปีพ.ศ 2421 กว่า 142 ปี ศาลพระกาฬเมื่อเป็น ศาสนสถาน ที่ด้านบนเป็นอาคารไม้มุงด้วยสังกะสี ปัจจุบัน เป็นอาคารตึกสร้างอยู่ติดกับโบราณสถานทิศตะวันตกสร้างเมื่อปีพ.ศ 2494 และทำพิธีเปิดอาคารในสมัยจอมพลป พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ อยู่ในตัวอาคารคือ ประติมากรรม หินทรายลอยตัวรูป พระนารายณ์สี่กรหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเจ้าพ่อพระกาฬหรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นรูปเคารพที่ชาวลพบุรีหรือใครๆที่ผ่านศาสถานจะยกกรประณทม ตามความเชื่อถือของตน ว่าจะพบแต่ความโชคดีตามที่ขอพรทุกประการ นั่นเป็นความเชื่อที่ไปล้ำสิทธิ์ของใครๆยิ่งได้เห็นองค์เจ้าพ่อพระกาฬในขณะที่ยกกรประณมยิ่ง จะทำให้เกิดความมั่นใจยิ่งในการขอพร อย่างน้อยๆนายประวัติความเป็นมาของศาลพระกาฬ น่า จะมีมาตั้งแต่สมัย ขอม มีอิทธิพลในเมืองลพบุรี ราวพุทธศักราชที่.16 มีการพบหลักศิลาจารึกสองหลักคือ หลักที่.19 และ 21 ณ ที่แห่งนี้ หลักที่.19 มีปี พ.ศ. บอกไว้ด้วยว่า ปี พ.ศ.1568 ความเก่าที่มีอายุถึง 1000 ปีนี้ยิ่งเพิ่มความขลังในความเคารพกราบไหว้แก่ผู้คนเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่นั่งอยู่บนรถไฟหรือรถยนต์ผ่าน ศาลพระกาฬ แต่ทว่า วันนี้ ที่บริเวณ หน้าศาลพระกาฬ ได้มีการนำเต็นท์ขนาดเล็ก หมาตั้งบัง แสงแดดเอาไว้ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาทางด้านหน้าโดยเฉพาะผู้คนที่นั่งรถไฟขึ้นล่องผ่านศาลพระกาฬจะต้องยกมือไหว้และเข้าไปหน้าศาลจะแลเห็นเจ้าพ่อพระกาฬ แม้นเพียงแวบเดียวก็ยังชื่นชมในหัวใจยิ่งนัก แต่วันนี้ ได้ถูกเต็นท์มาบดบัง ความรู้สึกอันลึกล้ำนั้นเสียแล้ว รู้ทั้งรู้ที่นี่มีผลประโยชน์ มหาศาล รายได้การเงินรายวันเข้ามานับแสนบาทเลยทีเดียว ใครหนอช่างรังแกความรู้สึกแห่งความศรัทธาของผู้คนได้อย่างไม่เคยคิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา จากอดีตอันไกลโพ้น ก็มิเคยมีเต็นท์มาตั้งบังแสงแดดเช่นนี้ หรือว่าเจ้าของเต็นท์ จ่ายส่วย เจ้าหน้าที่หน่วยศิลปากรที่ 4 หรือ ! ไม่รู้จะร้อนแรงแหกกระเชดเอากับใคร ได้ นอกจากหน่วยศิลปากรที่ 4 ของกรมศิลปากรผู้มีหน้าที่ดูแลโบราณสถานแห่งนี้ได้โปรดนำเต็นท์นี้ออกเสียงเกิด เมื่อให้ผู้คนสามารถมองเห็นองค์เจ้าพ่อพิการได้ในยามที่ผู้คนมีความหวังกับการขอพรนี้ด้วยเถิด อย่างมุ่ง แต่ความหวัง ในทางธุรกิจ หรือผลประโยชน์ของผู้คนที่เข้าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องการความสบายใจนักเลย เรื่องแค่นี้เวลาคิดจะทำการทำ ไหมไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาให้รอบด้านเสียก่อน ความสง่างามของศาลพระกาฬถูกบดบังด้วย ความคิดของคนที่คิดว่าเป็นเจ้าของศาสนสถานแห่งนี้ อย่าลืมว่า 3 ประการคือโบราณสถานของชาติและประชาชนมีสิทธิ์จะบ่นก่นด่าได้กับคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก. ?
วัชรนนท์ วงศ์ใหญ่ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี