วันที่ 4 ธค.63 เวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนใจบาปแอบลักลอบเผาข้าวเปลือกของชาวนา ม.7
ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี เจ้าของนาข้าวกำลังร้องไห้อยู่ที่กระท่อมนาของตัวเอง จึงเดินทางไปพบกับเจ้าของนาที่ทุ่งนาพบชายสูงวัยคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้มองทุ่งนาข้าวด้วยความเสียใจ ทราบชื่อลุงสุภา บัวพันธุ์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 /1 ม.7
ต.เมืองเก่าอ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี ลุงสุภากล่าวทั้งน้ำตาว่าช่วงสายๆออกมาดูนาข้าวที่เก็บเกี่ยวหลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และได้มัดฟ่อนข้าวรวมกันเป็นกองๆเพื่อรอการพ่นข้าวในอีก 1-2 วันที่จะถึงนี้ เมื่อเดินเข้ามาที่ทุ่งนาเห็นมีควันไฟตอนแรกยังไม่คิดว่าไฟไหม้ฟ่อนข้าวของตัวเอง ทันทีที่เดินเข้ามาใกล้ๆเห็นว่าป้อนข้าวถูกคนใจบาปจุดไฟเผาไหม้หมดกลองที่กองอยู่จุดแรกราว 270 กว่าฟ่อน (ประมาณ 100 ถัง) ถึงกลับปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ ลุงสุภา กล่าวต่ออีกว่าไม่รู้ว่าใครแอบมาเผาฟ่อนข้าว
เปลือกซึ่งกำลังจะหารถมาพ่นข้าวอยู่แล้ว ไม่เคยสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับใครที่ผ่านมายังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกพร้อมกับโพล่งออกมาว่า “เผาข้าวกูทำไมทำแบบเอาปืนมายิงกูเสียดีกว่าสงสารแม่โพสพเหลือเกิน”จากนั้นลุงสุภาภาเดินเข้าไปดูตรงบริเวณที่คนใจบาปจุดไฟเผาฟ่อนข้าวที่เหลือแต่ขี้เถ้าที่ยังมีไฟอยู่ จากนั้นลุงสุภาได้พาเดินไปดูกองฟ่อนข้าวที่ยังเหลือไว้อีก 2 จุด บนเนื้อที่ 10 ไร่ ซึงได้นำฟ่อนข้าวที่กองรวมกันไว้รอพ่นข้าวคนใจบาปไม่ได้จุดไฟเผา ตอนนี้รู้กังวลใจมากกลัวว่าคนใจบาปจะแอบมาเผาข้าวอีกแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรคงต้องมานอนเฝ้าจนกว่าจะรถพ่นข้าวจะมาพ่นจึงจะเก็บไว้กินและแบ่งขาย ณ เวลานี้ยังคิดไม่ออกว่าตนไปทำให้ใครไม่พอใจเรื่องอะไรทำถึงต้องมาเผาข้าวแบบนี้ขณะเดินกลับเห็นรวงข้าวเปลือกพี่ถูกไฟไหม้ไม่หมดลุงสุภาถึงกับร้องไห้โฮออกมาอีกครั้งและสบท
ออกมา “โธ่เอ้ย..ฮือ..แม่นางโพสพเอ้ยถูกไฟไหม้หมดเลยฮือๆ”ค่อยๆเอามือจับรวงข้าวขึ้นมาถือไว้ และเอาน้ำมาดับไฟที่ยังไหม้อยู่ชั้นล่างสุดเป็นภาพที่สะเทือนใจชาวนามากที่สุดเห็นภาพนี้…
ภาพ/:ทองสุข สิงห์พิมพ์