วันที่ 24 พ.ย.63 เวลา 10.30 น.ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม. (สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ,พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์ จุนเกียรติ รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.ตม.จ.สุรินทร์ ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 6 แรงงานกัมพูชาซุกรถตู้โดยสาร หลบหนีเข้าทำงานในไทย
บก.ตม.4 สนองนโยบาย ตร.สกัดกั้นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 กล่าวคือ ตม.จ.สุรินทร์ ได้สืบทราบว่าจะว่ามีกลุ่มบุคคลทำการลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรโดยใช้ช่องทางธรรมชาติบริเวณ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จึงได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรนารีและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่วางกำลังดักซุ่มบริเวณดังกล่าวเพื่อรอเวลาเข้าทำการจับกุม ต่อมาเวลา 21.30 น. พบรถยนต์ตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร โดยมีนายสายันต์ อายุ 39 ปี สัญชาติไทย ผู้ขับขี่ และ น.ส.กานต์ธิดา อายุ 40 ปี สัญชาติไทย นั่งมาด้วย (ทราบชื่อภายหลัง) แล่นมาจอดอยู่บริเวณ ริมถนน 214 (กาบเชิง-ช่องจอม) ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งมีลักษณะตรงกับข้อมูลที่ได้จากสายข่าว
จากนั้นได้มีกลุ่มบุคคลคล้ายคนต่างด้าว ทั้งชายและหญิงจำนวน 6 คน รีบเร่งขนสัมภาระขึ้นรถตู้คันดังกล่าว ขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซึ่งซุ่มอยู่ในระยะประชิด จึงเข้าทำการแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานแก่นายสายันต์ฯ ผู้ขับขี่และขอตรวจสอบผู้โดยสารภายในรถ ผลการตรวจสอบพบว่าผู้โดยสารทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชาเพศชาย 3 คนและเพศหญิง 3 คนรวม 6 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารหลักฐานการเข้าเมืองที่จะแสดงแก่เจ้าหน้าที่ได้ จากการสอบสวนนายสายันต์ฯ ผู้ขับขี่ให้การรับว่าตนและ น.ส.กานต์ธิดา ได้ขับขี่รถตู้มาจอดรับชาวกัมพูชาทั้ง 6 คนซึ่งหลบหนี้เข้าประเทศมาทางช่องทางธรรมชาติ
โดยได้รับว่าจ้างให้นำพาบุคคลต่างด้าวไปส่งยังพื้นที่ชั้นในเพื่อทำงาน และได้รับค่าจ้างจากชาวกัมพูชาคนละ 1,300 บาท ขณะที่ตนและ น.ส.กานต์ธิดา กำลังจะขับขี่รถตู้โดยสารพาชาวกัมพูชาทั้ง 6 คนเดินทางมุ่งสู่กรุงเทพมหานคร ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน และสอบสวนนายเพียรา อายุ 31 ปี สัญชาติกัมพูชา หนึ่งในผู้โดยสารให้การว่า ตนกับพวกรวม 6 คนเป็นชาวกัมพูชา ไม่มีเอกสารการเดินทาง ได้ร่วมกันลักลอบเดินทางหลบหนีจากภูมิลำเนาของตนประเทศกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทยโดยผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อเข้ามาหาทำงานในกรุงเทพมหานคร ในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการจับกุมดำเนินคดีกับ นายสายันต์ และ น.ส.กานต์ธิดาฯ ในข้อหา “ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม, ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุรินทร์ที่ 1289/2563 ลงวันที่ 9 เม.ย.63 เรื่องห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์” และจับกุมดำเนินคดีกับ นายเพียรา พร้อมพวกชาวกัมพูชา รวม 6 ราย ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ดำเนินการตามกระบวนการคัดกรองการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 และนำส่ง พงส.สภ.กาบเชิง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 และชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงกลุ่มขบวนการนายหน้าที่เหลือ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกระทำผิดทั้งหมดต่อไป
พล.ต.ต.กฤษฎาฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน