วันนี้ 22 พฤศจิกายน 2563 ที่บ้านน้ำลัด หมู่ที่ 2 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายในพื้นที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยการขึ้นบินสำรวจ พื้นที่รับน้ำที่ได้รับความเสียหาย ก่อนลงพื้นที่ยังหมู่บ้านประสบเหตุ เพื่อติดตามสถานการณ์ และเยี่ยมเยียนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภค ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ในการดำรงชีพขั้นต้น ก่อนสั่งการให้หน่วยในพื้นที่รับผิดชอบ โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยการนำรถครัวสนามเข้าพื้นที่จัดทำอาหารแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยด่วน แล้วยังประสานแพทย์สนามจากหน่วยเสนารักษ์ โรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์ มณฑลทหารบกที่ 42 เข้าดูแลสุขภาพชาวบ้าน และทำการรักษาหากมีการเจ็บป่วยฉุกเฉิน อีกด้วย
ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 18:00 น. ถึง 21:00 น. มีฝนตกลงมาติดต่อกันอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่หมู่ 6 หมู่ที่ 7 หมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 2 ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กว่า 150 หลังคาเรือน ด้วยปริมาณน้าฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 ชั่วโมง ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาและน้ำสะสมจากคลองสายเขาน้ำค้างร่วมกับคลองสายที่มาจากอ่างเก็บน้ำคลองสะเดา ระบายไม่ทัน อีกทั้งบริเวณหมู่บ้านมีพื้นที่ลักษณะเป็นแอ่งกระทะทำให้เกิดน้ำขัง คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำจะทำให้น้ำระบายออกไปได้ในเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งก็จะต้องเตรียมการในพื้นที่รับน้ำต่อไป ด้วยการบูรณาการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและแจ้งเตือนแก่พี่น้องประชาชน เร่งอพยพ หากเกิดฝนตกหนักขึ้นมาอีกครั้ง จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ
โดยแม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ” ขณะนี้ได้ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาเข้าให้ความช่วยเหลือ และเฝ้าระวังเตรียมรับสถานการณ์ หากมีฝนตกลงมาซ้ำในพื้นที่ หน่วยที่รับผิดชอบโดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 42 และหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เตรียมรองรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ทหารก็ได้ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ด้วยการช่วยอพยพข้าวของเครื่องใช้ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยมีผู้นำท้องที่ให้การช่วยเหลือในการทำความเข้าใจและแจ้งประกาศเตือนต่อชาวบ้าน แต่ด้วยสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว มีลักษณะเป็น พื้นที่ลุ่มแอ่งกระทะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก อย่างฉับพลัน และมีการรองรับน้ำที่มีปริมาณสูง ขณะนี้ได้สั่งการหน่วยทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของกองทัพบก ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รองรับให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในทุกพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ หากมีพื้นที่ไหนประสบภัย ทหารจะเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทันที ขอให้มีความอุ่นใจไม่ต้องกังวล ทหารจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล
ขอบคุณภาพข่าวจากศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 4มทภ.4 สั่งรถครัวสนาม ทำกับข้าวแจกจ่ายแก่ประชาชน ย้ำ เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ 22 พฤศจิกายน 2563 ที่บ้านน้ำลัด หมู่ที่ 2 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายในพื้นที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยการขึ้นบินสำรวจ พื้นที่รับน้ำที่ได้รับความเสียหาย ก่อนลงพื้นที่ยังหมู่บ้านประสบเหตุ เพื่อติดตามสถานการณ์ และเยี่ยมเยียนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภค ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ในการดำรงชีพขั้นต้น ก่อนสั่งการให้หน่วยในพื้นที่รับผิดชอบ โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยการนำรถครัวสนามเข้าพื้นที่จัดทำอาหารแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยด่วน แล้วยังประสานแพทย์สนามจากหน่วยเสนารักษ์ โรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์ มณฑลทหารบกที่ 42 เข้าดูแลสุขภาพชาวบ้าน และทำการรักษาหากมีการเจ็บป่วยฉุกเฉิน อีกด้วย
ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 18:00 น. ถึง 21:00 น. มีฝนตกลงมาติดต่อกันอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่หมู่ 6 หมู่ที่ 7 หมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 2 ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กว่า 150 หลังคาเรือน ด้วยปริมาณน้าฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 ชั่วโมง ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาและน้ำสะสมจากคลองสายเขาน้ำค้างร่วมกับคลองสายที่มาจากอ่างเก็บน้ำคลองสะเดา ระบายไม่ทัน อีกทั้งบริเวณหมู่บ้านมีพื้นที่ลักษณะเป็นแอ่งกระทะทำให้เกิดน้ำขัง คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำจะทำให้น้ำระบายออกไปได้ในเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งก็จะต้องเตรียมการในพื้นที่รับน้ำต่อไป ด้วยการบูรณาการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและแจ้งเตือนแก่พี่น้องประชาชน เร่งอพยพ หากเกิดฝนตกหนักขึ้นมาอีกครั้ง จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ
โดยแม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ” ขณะนี้ได้ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาเข้าให้ความช่วยเหลือ และเฝ้าระวังเตรียมรับสถานการณ์ หากมีฝนตกลงมาซ้ำในพื้นที่ หน่วยที่รับผิดชอบโดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 42 และหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เตรียมรองรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ทหารก็ได้ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ด้วยการช่วยอพยพข้าวของเครื่องใช้ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยมีผู้นำท้องที่ให้การช่วยเหลือในการทำความเข้าใจและแจ้งประกาศเตือนต่อชาวบ้าน แต่ด้วยสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว มีลักษณะเป็น พื้นที่ลุ่มแอ่งกระทะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก อย่างฉับพลัน และมีการรองรับน้ำที่มีปริมาณสูง ขณะนี้ได้สั่งการหน่วยทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของกองทัพบก ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รองรับให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในทุกพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ หากมีพื้นที่ไหนประสบภัย ทหารจะเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทันที ขอให้มีความอุ่นใจไม่ต้องกังวล ทหารจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล
ขอบคุณภาพข่าวจากศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 4