วันที่ 18 พ.ย.63 เวลา 13.00 น. ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1,พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม สาวตากาล็อกฉายา Queens of Scammers ราชินีนักต้มตุ๋นชื่อดังในฟิลิปปินส์ เฉพาะผู้เสียหายในฟิลิปปินส์กว่า 700 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 75 ล้านบาท
กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ให้ทำการสืบสวนคดีฉ้อโกงเนื่องจาก
มีการร้องเรียนจากชาวฟิลิปปินส์ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้มีกลุ่มชาวฟิลิปปินส์ร่วมกับหญิงไทยได้จัดตั้งบริษัท Filipino Cooperative Investment Loan จำกัด รับบริการธุรกรรมทางการเงินให้กับชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งได้มีการโฆษณาเชิญชวนผ่านทางสื่อโซเชี่ยล เช่น FB,Line โดยบริษัทดังกล่าวมี น.ส.Lenie อายุ 30 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าของบริษัท
โดยเมื่อ 3 ปีก่อน น.ส.Lenie ได้ทำธุรกิจส่วนตัวในการรับแลกเปลี่ยนเงินและโอนเงินกลับไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีลูกค้าเป็นชาวฟิลิปปินส์
ที่มาทำงานในประเทศไทยอยู่เป็นจำนวนมาก โดย น.ส.Lenie จะคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่มากกว่าธนาคารรวมถึงค่าธรรมเนียมในการโอนจนสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับชาวฟิลิปปินส์ในไทยจำนวนมาก จึงทำให้ น.ส.Lenie เป็นผู้มีชื่อเสียง
จากนั้น น.ส.Lenie ได้ชักชวนกลุ่มลูกค้าของทางบริษัทให้มาร่วมลงทุนกิจการปล่อยเงินกู้ โดยมีรูปแบบแชร์ลูกโซ่ สามารถทำกำไรได้ถึง 15% ภายใน 4 สัปดาห์ ทำให้ลูกค้ามีผู้สนใจเป็นจำนวนมากในแต่ละเดือน น.ส.Lenie มีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 50 ล้านบาท จนกระทั่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าของ น.ส.Lenie ไม่สามารถติดต่อ น.ส.Lenie ได้ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการการส่งเงินกลับประเทศปลายทางไม่ได้รับเงินโอน กลุ่มลูกค้าที่ลงทุนในการปล่อยเงินกู้ก็ไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ตกลงไว้ ทำให้มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับทาง กก.สส.บก.ตม.1 เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายที่ได้รับแจ้ง 10 กว่าล้านบาท และจากการสืบสวนเชิงลึกทราบว่ายังมีผู้เสียหายทั้งในไทยและในประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า 700 ราย มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 116 ล้านเปโซ หรือ 75 ล้านบาท
ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบข้อมูล น.ส.Lenie พบว่า น.ส.Lenie ได้ชักชวน น.ส.ธัญญาเรศฯ แฟนสาวชาวไทยเข้ามาเป็นหุ้นส่วน ทำหน้าที่รับโอนเงินจากชาวฟิลิปปินส์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกติดตามตัวทั้ง 2 คน จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมน.ส.Lenie ได้ที่อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งย่านอโศก ขณะย้อนกลับมาเอาเอกสารที่ น.ส.Lenie ได้แอบเปิดไว้ และ น.ส.ธัญญาเรศฯ สามารถติดตามจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ขณะกบดาน ซึ่งทั้ง 2 ถูกออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์”
จากการจับกุมครั้งนี้เป็นที่สนใจของชาวฟิลิปปินส์และสื่อมวลชนทางฟิลิปปินส์เป็นจำนวนมาก จนทำให้สื่อทางฟิลิปปินส์ตั้งฉายาให้ น.ส.Lenie เป็น Queens of Scammers
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ถูกจับ ทราบว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ปิติฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู
แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน