ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี ได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านทุ่งแฝก ม.2 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี เขียนจดหมายร้องทุกข์ถึงนายกอบต.กบินทร์ มีจระเข้อยู่ในแอ่งน้ำหนองน้ำในที่ดินของชาวบ้านจระเข้ตัวดังกล่าวมีขนาดใหญ่อาศัยอยู่ในที่ดินของชาวบ้านที่เป็นสระน้ำหลังบ้านในจดหมายระบุว่า เขียนที่บ้านเลขที่140 ม.2ต.กบินทร์อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี ลงวันที่ 8 พย.63 เรื่องได้มีจระเข้อยู่ในแอ่งน้ำ-หนองน้ำในที่ดินของนางสาวทวี ระยองขาว ตั้งแต่เล็กไป ปัจจุบันนี้ตัวใหญ่โขจัดว่าเป็นจระเข้โตอย่างธรรมชาติไม่ใช่จระเข้เลี้ยง ถือเป็นสัตว์สงวน
ประชาชนจะไปทำร้ายเข่นฆ่าคงผิดกฎหมาย จระเข้ใหญ่โตขึ้นทุกวัน สร้างความวิตกและกลัวให้กับผู้อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว เพราะจระเข้เคยขึ้นมา นอนเกยในสวน และข้างบ้านเจ้าของที่ดินหลังดังกล่าวจึงวิตกว่าจะทำอันตรายกับผู้คนได้
เพราะเดี๋ยวนี้ตัวโตใหญ่มากขึ้น เคยแจ้งด้วยวาจากับนิติกรอบต.กบินทร์ นิติกร
ได้ประสานไปยังหน่วยกู้ภัยฯได้มาดำเนินการจับแล้วแต่ไม่สำเร็จ เพราะจระเข้ตัวใหญ่มากจึงสร้างความวิตกทุกข์ร้อนใจให้กับเจ้าของที่ดินและประชาชนใกล้เคียงอย่างมาก จึงขอความอนุเคราะห์มายังนายกอบต.ให้ช่วยประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงช่วยมาจัดขนย้ายออกจากพื้นที่ตรงนี้ด้วยขอแสดงความนับถือนายประจวบ ต้นโป้
ย ผู้ร้องให้ส่งหนังสือแทน
เจ้าของที่ดินหลังรับหนังสือร้องทุกจากชาวบ้าน นายกฤษฎากร
สุริยวงศ์ นายกอบต.
กบินทร์ สั่งการให้นายพิเศษคำขจร ปลัดอบต.นายธนิต
โอกาส นิติกร พร้อมกับหน.ป้องกันฯลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 พย.63จากการสำรวจในพื้นที่ดังกล่าวตามที่ผู้แจ้งระบุมา
ไม่พบจระเข้แต่อย่างใด
จึงให้กำลังใจประชาชน
ในพื้นที่ พร้อมทั้งให้เจ้า
ของบ้านแจ้ง อบต.หากว่า
พบเห็นจระเข้จะรีบเข้ามา
ทำการจับจระเข้ออกจาก
บริเวณบ้านทันทีเพื่อความปลอดภัยฯ
วันที่ 13 พย.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอบต.กบินทร์เพื่อขอพบกับ นายกอบต.นายกเดินทางไปประชุมที่ตวจ.และได้ขอพบกับปลัดอบต.ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าปลัดอบต.เดินทางไปประชุมที่จังหวัดปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายธนิต โอกาส นิติกร อบต.นายธนิต กล่าวว่าตามที่ประชาชนทำหนังสือร้องเรียนมาที่อบต.นายกอบต.ได้สั่งการให้ทางปลัดอบต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปพบกับผู้ร้อง ผู้ร้องบอกว่าขณะนี้ยังไม่พบตัวจระเข้อยู่ที่บริเวณดังกล่าวทางอบตได้ให้กำลังใจและให้รีบแจ้งทางอบต.ทราบโดยด่วนหากพบเจอจระเข้จะได้ประสานฝ่ายเกี่ยวข้องลงมาจับจระเข้ไปไว้ในที่อื่น นายธนิตกล่าวว่าตามที่ชาวบ้านแจ้งมาและได้ถ่ายรูปใว้ดูจระเจ้มีอยู่2 ตัว ตัวใหญ่ขนาด 2 เมตร1 ตัว ตัวเล็ก 1 เมตร ตัวใหญ่
ชาวบ้านบอกว่าน้ำหนักราว40-50 กิโลกรัม ไม่ทราบว่าจระเข้ที่พบเห็นนั้นมาจากที่ใดมาอาศัยอยู่ที่นี่นานหลายปีแล้ว
จากการสอบถามพี่สาวของผู้ร้องที่มีบ้านอยู่ใกล้กันและเป็นผู้ที่พบเห็นจระเข้หลายปี (ป้าเขียง) กล่าวว่าพบเห็นจระเข้อยู่บริเวณสระน้ำหลังบ้านห่างจากบ้าน 10 เมตร
2 ตัว ตัวเล็กกับตัวใหญ่บางวันออกมารดน้ำต้นไม้หลังบ้านจระเข้ก็จะมานอนเฝ้าอยู่ข้างๆได้ให้โครงไก่กินเป็นประจำ จระเข้ตัวใหญ่ไม่มีอาการดุร้ายแต่ว่าเชื่องมากกว่า ให้โครงไก่กินก็จะค่อยไปลืมตากินบางทีมองหาไม่เห็นทำงานในสวนหันไปหันมาอีกทีพบจระเจ้ตัว
ใหญ่นอนอ้าปากผึ่งแดดอยู่ข้างๆ ตนเองก็พูดว่ามาตอนใหนตกใจหมดไปไหนมาไม่เห็นหน้าหลายวัน จระเจ้จะหายหน้าไป 3-4 วันก็จะมาอีก ถ้ามาจะสลับกันมาโดยตัวใหญ่มาก่อน ตัวเล็กจะค่อยๆคลานตามมาห่างๆแต่ถ้าตัวเล็กมาก่อนตัวใหญ่ก็จะค่อยๆคลานมา ตัวเล็กจะรีบคลานหนีไป หลังจากที่น้ำลดเมื่อกลางเดือนที่แล้วยังไม่เห็นจระเข้ทั้ง 2 ตัวอีกเลยไม่ทราบว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน หรือมีคนจับจระเข้ไปแล้วไม่แน่ใจรู้สึกสงสารและห่วงเสมอ หากมีคนจับไปปล่อยก็ดีใจด้วยแต่ถ้ามีใครจับหรือยิงไปกินรู้สึกเสียใจมาก ที่ผ่านมาจระเข้อยู่ในที่หลังบ้านในสระน้ำไม่เคยทำร้ายคนหรือสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใด จระเข้ทั้ง 2 ตัวนี้ไม่ทราบว่ามาจากไหนอาจจะมากับน้ำหลากท่วมพื้นที่หรือลอดท่อข้ามถนนมาซึ่งมีท่อฝังข้ามถนนจากแหล่งน้ำสาขา (แควพระปรง)ทุกวันนี้เปิดประตูหลังบ้านออกมาไม่พบจระเข้มานอนอยู่หลังบ้านทำให้ใจหายทางวันเปิด
ประตูออกมาเห็นนอนรอกินอาหาร…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์