นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รับทราบถึงปัญหาการลักลับขึ้นตัดไม้ทำลายป่าในเขตอนุรักษ์เทือกเขาบรรทัด ในท้องที่อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล นำมาแปรรูป เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มนายทุน ในพื้นที่ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง ที่สั่งตามออเดอร์ไม้ที่ต้องการเป็นอย่างมาก และได้รู้จุดพิกัดการบุกป่าอยู่ในพื้นที่ผังบ้านปามล์ 4 หมู่ที่ 3 ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ล่าสุดนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ต้องการจับผู้กระทำผิดทำลายป่าที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่กล้าบุกรุกโดยมอบหมายให้นายศักระ กปิลกาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลที่ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าด้านฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยชุด กอ.รมน .จังหวัดสตูล ทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 และทหารชุดกำลังเทพสตรี และ ตชด.436 อส.ชุดเฉพาะกิจจังหวัดสตูล ขึ้นตรวจสอบทันที
สำหรับการเข้าจับกุมตรวจสอบนี้ทางจังหวัดวางแผนถึง 2 วัน และตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า ในพื้นที่ มีกลุ่มนายทุนจากพื้นที่ จ.พัทลุง ร่วมกับกลุ่มบุคคลในพื้นที่ ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ได้ทำการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในเขตอนุรักษ์เทือกเขาบรรทัด นำมาแปรรูป เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มนายทุน ในพื้นที่ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง โดยการทำงานได้จัดกำลังชุดตรวจการณ์ ร่วมกับแหล่งข่าว เข้าพื้นเป้า หมายจำนวน 2 พื้นที่ เพื่อซุ่มตรวจการณ์ ตามเส้นทางที่ แหล่งข่าวแจ้งว่า กลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ จะใช้รถสิบล้อ และรถยนต์กระบะ ดำเนินการลำเลียงไม้เพื่อนำไปแปรรูปในพื้นที่ ออกมา ล่าสุดไม่พบการเคลื่อนไหว
และต่อมาทางคณะเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบได้ร่วมประชุมหารือ ณ อาคารอำนวยการ วัดอุใดเจริญ ผัง 34 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล ซึ่งเป็นพื้นที่รวมพล/พักคอย ของกำลังส่วนใหญ่ เพื่อวางแผนเข้าตรวจสอบเป้าหมายที่กลุ่มนายทุน ร่วมกับบุคคลในพื้นที่ ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ได้ร่วมกันตัดไม้ ตามข้อมูลที่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าว นำกำลังออกเดินจาก วัดอุใดเจริญ ผัง 34 เข้าพื้นที่ เป้าหมาย บ้านผังปาล์ม 4 หมู่ 3 ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล พร้อมรับชุดซุ่มตรวจการณ์หน้า และแหล่งข่าว ทั้ง 2 จุด ใช้เวลา 30 นาที ถึงพื้นที่เป้าหมายที่รถยนต์เข้าถึงทางคณะเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบวางแผนเพื่อเดินเท้าเข้าพื้นที่เป้าหมายที่มีการตัดไม้ ตามที่แหล่งข่าวให้ข้อมูล โดยมีแหล่งข่าวเป็นผู้นำทาง ระยะทาง 3.2 กม.ใช้เวลาเดินเท้า 1 ชม 30 นาที ถึงพื้นที่เป้าหมายบนยอดเขา จากการตรวจสอบตามเส้นทางเดินเท้า ซึ่งเป็นเส้นทางที่กลุ่มขบวนการตัดไม้ใช้เป็นเส้นทางในการลำเลียงไม้ที่แปรรูปหน้าไม้ขนาดใหญ่ด้วยรถยนต์ และลำเลียงด้วยการลากจูงไม้ที่เป็นลำต้นด้วยช้าง เพื่อนำไปแปรรูปให้มีหน้าไม้ขนาดเล็กลง จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่ ทราบว่า กลุ่มบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ได้ดำเนินลำเลียงไม้ที่ได้โค่นแล้ว ลำเลียงออกจากพื้นที่การตัดโค่นไปทั้งหมดแล้ว เหลือเพียง ต้นตอไม้ มีโคนต้นสภาพใหม่ เป็นต้นไม้หลุมพอขนาดใหญ่ ประมาณ 6 -7 คนโอบ จำนวน 1 ตอ ความยาว ของลำต้น ประมาณ 30 เมตร และ ร่องรอยการแปรรูปไม้ที่ล้มนอนอยู่ก่อนแล้ว ในพื้นที่การตรวจสอบพบร่องรอยเครื่องจักรกลลักษณะเป็นล้อยางรถไถ และร่องรอยเท้าช้าง สถาพใหม่ ตลอดเส้นทางการเดินเท้า และพบพื้นที่ร่องรอยการเลี้ยงช้างบนยอดเขา ซึ่งมีลักษณะเป็นต้นกล้วยป่า ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด และอุปกรณ์ในการประกอบการกระทำความผิดแต่อย่างใด
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล