ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐป้องกันและปราบปรามเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย และอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมในปัจจุบัน ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป้องกันและปรามปราบอาชญากรรมอย่างจริงจัง และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์,พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สปพ.บช.น.) ทำการป้องกันและปรามปราบอาชญากรรมต่างๆ
โดยในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น,พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร,พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย,พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ,พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมสั่งการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สปพ.บช.น.) โดย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี,พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิต,พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา รอง ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจฯ,พ.ต.ท.อัครพล โทยะ,พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์,พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ, พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี,พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจฯ,พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สายตรวจ บก.สปพ.
ร่วมกันจับกุมนายสหรัถ พุ่มบัณฑิต อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/80 ตำบล และ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยของกลาง อาวุธมีด และเงินสดยังไม่ทราบจำนวน ซึ่งผู้ต้องหาได้ทำการเผาทั้งหมด โดยสามารถจับกุมได้ หน้าร้านสะดวกซื้อ (7-11) ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ”
ก่อนทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุผ่านฟ้าว่ามีชาย 1 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในพื้นที่ สน. ศาลาแดง เป็นชายสวมเสื้อเทา กางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าแตะสีดำ ก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื่อ 7-11 ถนนบางแวก-พุทธมณฑลสาย2 (ซอยกล้วยไม้) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสายตรวจได้ไปถึงที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบ นายสหรัถ พุ่มบัณฑิตย์ อายุ 24 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) ซึ่งมีลักษณะตรงตามที่ศูนย์วิทยุผ่านฟ้าแจ้ง บริเวณลานจอดรถหน้าร้าน 7-11 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสายตรวจจึงเข้าทำการจับกุม สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้พร้อมอาวุธมีดของกลาง สอบถาม นางสาววัลหทัย ใสนอก พนักงานร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ชี้ยืนยันว่าเป็นชายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์จริง โดยทรัพย์สินที่ได้เป็นเงินสดยังไม่ทราบจำนวนซึ่งผู้ต้องหาได้ทำการเผาทั้งหมดไปแล้ว จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา มายัง สน.ศาลาแดง สอบถามผู้ต้องหา เบื่องต้นมูลเหตุของการก่อเหตุมาจากปัญญาครอบครัว ตรวจสอบประวัติการต้องโทษพบว่าปี 2559 เคยต้องโทษคดีไม่แจ้งชื่อหรือที่อยู่ในกับเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสายตรวจฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิ์ให้ทราบ นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการ จำหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย ผ่านทางโซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับ การสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191
Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน