วันที่ 6 พ.ย.63 เวลา 10.30 น.ณ ห้องประชุมพรหมนอก ชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. : พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกับ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์,พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง,พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล,พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2,พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3,พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4,พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ ผบก.ขส.,พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส.,พล.ต.ต.หญิง วนิดา หาญบุญเศรษฐ ผบก.ประจำ บช.ปส.,สำนักงาน ป.ป.ส.,สำนักปราบปรามยาเสพติดกรมศุลกากร,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร,ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และกองทัพภาคที่ 2
ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม และสกัดกั้นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ จำนวน 6 คดี ผู้ต้องหา 8 คน ยึดยาบ้า 1,918,000 เม็ด,ไอซ์ 100 กก. และ กัญชา 200 กก. ยึดทรัพย์สินมูลค่า 2,500,000 บาท
คดีที่ 1.เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปส.3, บก.ขส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.,ศุลกากร และ ศรภ. ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ผู้ต้องหา 1 คนคือนายศรานนท์ โคตรแก้ว อายุ 23 ปี ที่อยู่ 108 หมู่ 1 ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง จำนวน 3 รายการ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,600,000 เม็ด,รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน 2 กช 9573 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมบริเวณบริษัทขนส่งพัสดุระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ถ.กาญจนาภิเษก แขวงและเขตบางแค กทม.
โดยในคดีนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาในกลุ่มแก๊งค์ขนมเบื้อง และจากการวิเคราะห์ข้อมูลของ บก.ขส.บช.ปส.ทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการที่ยังไม่ถูกจับกุม จะลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคอีสานตอนบน โดยใช้รถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อเชฟโลเลต สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กช9674 กรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางถนนมิตรภาพ พื้นที่จังหวัดสระบุรี จนกระทั่งในวันเกิดเหตุพบรถยนต์คันดังกล่าวขับมามาตามเส้นทางช่วง อ.บางเลน จ.นครปฐม ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจค้น พบยาบ้า จำนวนประมาณ 1,600,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ จึงได้ทำการจับกุมนายศรานนท์ โคตรแก้ว และนำตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.บก.ปส.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2.เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 ต่อเนื่องถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส.บช.ปส.,ชุด ชปข.ร้อย ตชด.235 และเจ้าหน้าที่ ปป.3 สปป.สำนักงาน ป.ป.ส.ได้จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ผู้ต้องหา 3 คนคือ นายอิทธิพงษ์ จุลนาด อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.5 ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร,นายกุลธร คำแก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.15 ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร และ นายประชา อาบทอง อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 70 ม.7 ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร พร้อมของกลาง จำนวน 3 รายการคือ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 300,000 เม็ด,รถยนต์ จำนวน 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่องโดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมบริเวณถนนชยางกูร ต.นากอก อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ต่อเนื่อง ถนนภายในบ้านหมากยาง หมู่ 3 ต.เป๊าะ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ
โดยก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าพื้นที่ตอนใน ใช้รถยนต์เป็นพาหนะจำนวนสองคัน โดยคันหนึ่งลำเลียงและอีกคันหนึ่งนำทาง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และใกล้เคียง กระทั่งในวันเกิดเหตุ พบรถยนต์เป้าหมายขับอยู่ที่บริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสกัดรถยนต์เพื่อตรวจสอบ และพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 300,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมนายอิทธิพล จุลนาด พร้อมพวกรวม 3 คน และของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 3.เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 07.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 บช.ปส. ได้จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ผู้ต้องหาคือนายกล้า พัดคำตัน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ 8 ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร พร้อมของกลาง จำนวน 3 รายการ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 100 กก.,รถยนต์ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า
“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ถนนมิตรภาพ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดจะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ในเขต จ.สกลนคร เข้าไปส่งพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะจำนวนสองคัน โดยคันหนึ่งลำเลียงและอีกคันหนึ่งนำทาง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันตั้งจุดตรวจค้นยานพาหนะที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว จ.นครราชสีมา เฝ้าสังเกตการณ์เพื่อสกัดจับกุมรถยนต์เป้าหมาย
จนกระทั่งในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบรถยนต์เป้าหมายคันหนึ่งขับผ่านเข้ามาที่เกิดเหตุ จึงเข้าสกัดเพื่อทำการตรวจสอบ และพบ นายกล้า พัดคำตัน คนขับรถ ตรวจค้นภายในรถยนต์พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 100 กก. จึงจับกุมนายกล้าฯ พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4.เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 12.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.2 บช.ปส.,สภ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และ สภ.คลองกิ่ว จ.ชลบุรี ได้จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ผู้ต้องหาคือ นายจิรายุ หรือเต๋า ขัดปัญญา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 14 ต.คอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ชลบุรี ที่ จ.17/2562 ลง 17 มกราคม 2562 โดยสามารถตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯคือ รถยนต์เก๋ง 1 คัน ราคาประมาณ 500,000 บาท,ที่ดินพร้อมบ้าน จำนวน 1 แปลง ราคาประมาณ 2,000,000 บาท โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมบริเวณหน้า สภ.คอนสวรรค์ ต่อเนื่องกับบ้านเลขที่ 55 หมู่ 14 ต.คอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และบ้านเลขที่ 169/266 หมู่ 2 ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี
โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 เวลาประมาณ 09.20 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.ภ.2 จับกุมนายกฤษณะ รัตนอัมพร ได้พร้อมของกลางคือ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า 14,000 เม็ด,ไอซ์ 300 กรัม) และจากการสอบสวนขยายผลจนทราบผู้ร่วมขบวนการ และศาล จ.ชลบุรี ออกหมายจับนายจิรายุ ขัดปัญญา ในความผิดข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายจิรายุฯ หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวข้างต้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันวางแผนเข้าทำการจับกุมตัวนายจิรายุฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองกิ่ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป
คดีที่ 5.เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 18.40 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ได้ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 18,000 เม็ดโดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยตรวจยึดได้ริมถนนทางหลวงหมายเลข 290 (ถนนวงแหวนรอบเมือง จ.นครราชสีมา ช่วงมิตรภาพ–ขามทะเลสอ) หมู่บ้านโกรกกระหาด หมู่ 4 ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา
ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ชาวไทยและชาว สปป.ลาว ร่วมกันลักลอบจำหน่ายยาบ้า จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมกันวางแผนเพื่อทำการจับกุม โดยการอำพรางติดต่อซื้อขายกัน กระทั่งในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้รับแจ้งจากฝ่ายผู้ค้ายาบ้าว่าได้วางยาบ้าไว้ในที่เกิดเหตุแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไปถึง พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 18,000 เม็ดวางอยู่ แต่ผู้วางยาบ้าได้หลบหนีไป จึงตรวจยึดยาบ้าของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป
คดีที่ 6 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ได้จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯผู้ต้องหาคือ นายนราวิชญ์ หรือทอง อินธิราช อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/2 หมู่ 7 ต.โนนค้อ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี,นางรติมา หรือระยอง วังคะฮาด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 2 ต.คอแลน อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) รวมน้ำหนักประมาณ 200 กก.,รถยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดยจับกุมได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ถนนมิตรภาพ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เข้าพื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการลำเลียง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางพื้นที่ตอนใน กระทั่งในวันเกิดเหตุ พบรถยนต์เป้าหมายขับเลี้ยวหลบเข้าไปถนนภายในหมู่บ้าน ไม่เข้าด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสกัดรถยนต์เพื่อตรวจสอบ พบนายนราวิชญ์ฯ เป็นคนขับ,นางรติมาฯ นั่งในรถ และพบยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) รวมน้ำหนักประมาณ 200 กก. วางอยู่กระบะท้าย จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บช.ปส.ขอประชาสัมพันธ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดช่องทางแจ้งเบาะแสยาเสพติด และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศที่หมายเลข 1599 และศูนย์ 191 ทุกจังหวัดเพื่อเป็นทางเลือกในการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสเรื่องยาเสพติดเพิ่มขึ้น
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 88 หมู่ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทร.025218266-75 www.thaidrugpolice.com
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน