บิ๊กตู่” เปิดทำเนียบฯ ให้ว่าที่ผบ.ทบ.คนใหม่ และนายทหารที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประจำปี เข้าพบรับโอวาท ระบุ ให้ตอบแทนประเทศด้วยการขับเคลื่อนงานของหน่วย
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ได้เข้าปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ หลังจากที่มีการเลื่อนกำหนดการแถลงผลงาน 2 ปี เป็นวันที่ 15 ก.ย. โดยตลอดช่วงเช้าได้เปิดโอกาสให้ข้าราชการทหารที่ได้รับโปรดเกล้าฯในการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2559 เข้าพบเป็นการภายในที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อขอบคุณและขอรับโอวาทตามธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งมีนายทหารทยอยเข้าพบ อาทิ พลเอกสุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ เสนาธิการทหาร เป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บัญชาการทหารบก พลเอกพิสิทธิ์ สิทธิสาร เสนาธิการทหารบก เป็น รองผู้บัญชาการทหารบก พลตรีวีรชน สุคนธปฏิภาค และ พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด ผู้ชำนาญการกองทัพบก ที่ได้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก (อัตรา พลโท) เป็นต้น
โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้โอวาทในการปฎิบัติหน้าที่และมอบพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่เนื้อผงผสมว่าน 108 ด้านหลังมีพระคาถากำกับและ กระเป๋าสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นที่ระลึกด้วย
พล.ต.สรรเสริญ เปิดเผยว่า ถือเป็นประเพณีและธรรมเนียมของทหาร ที่จะเข้าขอพร ผู้บังคับบัญชาสูงสุด และอดีตผู้บังคับบัญชา ที่เป็นทั้งรุ่นพี่ ที่ให้ความเคารพ เพื่อขอพร ในโอกาสที่ได้เลื่อนยศ และตำแหน่ง ใช้เป็นแนวทางในการทำหน้าที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้โอวาท ตอนหนึ่งว่า การที่ทุกคนได้เลื่อนยศ และตำแหน่ง เป็นไปตามกุศลงานที่แต่ละคนได้ทำไว้ แต่ยศ และตำแหน่ง เป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่ง และหัวโขนเท่านั้น ขออย่าลืมความรับผิดชอบ ที่ต้องทำ ต่อประเทศ และในฐานะผู้บังคับบัญชา ต้องปฎิบัติหน้าที่ต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยการมองที่ใจ ทำให้เขามีความสุข จะได้ตอบสนองงานของหน่วย และประเทศได้ด้วย ดังนั้นทุกคนจะต้องทำหน้าที่ให้ดี เพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่สร้างบรรทัดฐานให้สังคมเข้าใจผิดว่า เมื่ออยู่ในตำแหน่งจะต้องสร้างสิ่งต่างๆไว้เป็นอนุสรณ์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องขับเคลื่อนงานของหน่วยงานให้มีศักยภาพ นั่นคือภารกิจหลักของทหาร
ขณะที่พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ได้มอบพระพิมพ์สมเด็จให้กับทุกคนพร้อมให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ระมัดระวังและดูแลทุกคนให้เกิดความเท่าเทียม ทำงานทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ สถาบัน ทำงานเพื่อประชาชน ทำให้กองทัพเป็นที่พึ่งของประชาชน