“สมศักดิ์” ชี้ผลดีของทำงานบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน ยันเอาไปขายต่อไม่ได้ ต้องนำไปใช้ประโยชน์ราชการ เผยเดือน ตุลาคม ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดได้ 15 ล้าน
วันที่ 21 ต.ค.63 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ),นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์,นายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดและยึดไม้มีค่าได้หลายรายการ
นายสมศักดิ์ฯ กล่าวว่า ตามที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตรวจค้นบ้าน นายสาธิต วิยาภรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายค้นศาลอาญา ซึ่งขณะนี้เสียชีวิตไปแล้ว ที่บ้านใน ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อบังคับใชกฎหมายตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ซึ่งการตรวจค้นได้พบไม้พะยูง,ไม้ชิงชัน และไม้อื่นๆจำนวนมาก จากนั้น กรมป่าไม้ ได้ตรวจสอบและแจ้งผลว่า มีไม้หวงห้ามเป็นไม้แปรรูปและไม้ท่อนไว้ในครอบครอง ดังนี้คือไม้พะยูง แปรรูป 409 แผ่น ปริมาตร 49.21 ลูกบาศก์เมตร,ไม้ชิงชัน 1,207 แผ่น ปริมาตร 26.16 ลูกบาศก์เมตร,ไม้สัก 170 แผ่น ปริมาตร 2.18 ลูกบาศก์เมตร และไม้มะค่าโมง 17 แผ่น ปริมาตร 0.71 ลูกบาศก์เมตร ประเมินมูลค่าประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 ครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่มีตราค่าหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย และมาตรา73 แปรรูปไม้ ตั้งโรงงาน ตั้งโรงค้าไม้แปรรูป มีไม้สัก,ไม้ชิงชัน และไม้พะยูงแปรรูปไว้ในครอบครอง
“การทำงานครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงยุติธรรม กับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ทุกกระทรวงทำงานร่วมกันเพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพ การจับกุมและยึดไม้ในครั้งนี้เป็นการขยายผลยึดทรัพย์จากคดียาเสพติด โดยไม้ที่ยึดมาได้เหล่านี้ เราจะนำไปขายต่อไม่ได้ แต่สามารถนำไปใช้ประโยชน์กับทางราชการได้ โดยทาง กรมป่าไม้ ได้ทำ MOU ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำไม้ไปให้นักโทษใช้ในการฝึกอาชีพ นำไม้ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณท์ต่างๆได้ ทั้งนี้หากหน่วยงานราชการอื่นๆ ต้องการนำไม้เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ สามารถทำหนังสือถึงกรมป่าไม้ได้เช่นกัน ซึ่งจะมีคณะกรรมการดูแลอยู่” นายสมศักดิ์ฯ กล่าว
นายสมศักดิ์ฯ ยังกล่าวถึงการจับกุมในคดีสำคัญระหว่างวันที่ 1-20 ต.ค.63 ว่า มีการจับกุมคดีสำคัญ 7,059 คดี ผู้ต้องหา 7,378 คน โดยยึด ยาบ้า 10 ล้านกว่าเม็ด,ไอซ์ 996 กิโลกรัม,เฮโรอีน 401.53 กิโลกรัม,กัญชา 8.99 กิโลกรัม และคีตามีน 200 กิโลกรัม และยังขยายผลอายัดทรัพย์สินเพิ่มได้อีก 51 ราย เป็นเงินกว่า 15 ล้านบาทเศษ โดยจำแนกเป็นกลุ่มเครือข่ายสำคัญ 6 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายชาวเขาและชนกลุ่มน้อย 4 คดี,เครือข่ายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 คดี,เครือข่าย กทม.และปริมณฑล 4 คดี,พื้นที่ภาคใต้ 3 คดี,เจ้าหน้าที่รัฐ 1 คดี และเครือข่ายระหว่างประเทศ 2 คดี โดยมีคดีที่น่าสนใจ เช่น วันที่ 12 ต.ค.63 ป.ป.ส. จับกุมผู้ต้องหา 1 คนในพื้นที่ อ.เต่างอย จ.สกลนคร ยึดของกลางไอซ์ 500 กิโลกรัม และ วันที่ 13 ต.ค.63 อ.เมือง จ.หนองคาย จับผู้ต้องหา 1 ราย ยึดไอซ์ได้ 496 กิโลกรัม ยาบ้า 1.8 ล้านเม็ด
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน