12 ก.ย.59 SET วันก่อนยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลภายในประเทศ ประกอบผิดหวัง ECB ไม่ขยายเวลาการใช้ QE 8 หมื่นลบยูโร/เดือนออกไปในการประชุมครั้งนี้ ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,445.28 จุด (-10.10 จุด) Vol. 6.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +425 ลบ., TFEX Net -5,727 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
– ตลาดหุ้นสหรัฐฯทรุดตัวลงแรงเกือบ 400 จุด จากความกังวล FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 20 – 21 ก.ย. ส่งผลให้ VIX index พุ่งขึ้นแรงล่าสุด 17.5 จุด พร้อมกับเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 34.8 Bath/USD. ซึ่งอาจส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Sell
– ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 45.2 US/Barrel หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 7 แท่น สู่ 414 แท่น อีกทั้งเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้น
– มอร์แกน สแตนลีย์ ระบุหุ้นไทย มีความเสี่ยงขาลง 10% แนะจับตาผลตอบแทนพันธบัตรรัฐ หลังพบว่า ปรับเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 2.3% หวั่นดึงเม็ดเงินจากตลาดหุ้น
+ ญี่ปุ่นเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 4.9% สู่ระดับ 8.919 แสนล้านเยน
+รมว.พาณิชย์ คาดส่งออกไทยปี 59 โต 0.3% เคาะเป้าปีหน้าโต 3% ตามศก.โลกฟื้น
Sentiment เชิงลบจากความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 20 – 21 ก.ย. รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรงเป็นแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุนช่วงนี้ ดังนั้น ประเมินว่า SET จะอ่อนตัวลง โดยมีแนวรับบริเวณ 1,430 และ 1,420 จุดตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy
– TTA PSL ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้นทำ High ในรอบ 1 ปีล่าสุด 804 จุด
– FTSE: Rebalance Large Cap เพิ่ม KBANK SCC , Mid Cap เพิ่ม BEM และ Small Cap เพิ่ม GPSC VIBHA IMPACT ถอด THRE มีผล 16 ก.ย.
-สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -394.46 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,085.45 จุด ลดลง 394.46 จุด หรือ -2.13%% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,127.81 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -2.45% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,125.91 จุด ลดลง 133.57 จุด หรือ -2.54% เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายหุ้น อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. ภายหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้
ตลาดน้ำมัน NYMEX -1.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 3.65% ปิดที่ 45.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.2% หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้คาดว่าผลผลิตน้ำมันดิบจะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นด้วย