ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุม กลุ่มมิจฉาชีพ ที่มีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชน โดยเฉพาะการหลอกลวงหรือฉ้อโกงออนไลน์ อันเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิท19 โดยให้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ดำเนินการตามสั่งการของ นายกรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
โดยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 เวลา 13.00 น. ณ ห้องแถลงข่าวชั้น 1 อาคาร 1 ตร. : พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ.ศปอส.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หน.ชป.2 ศปอส.ตร.,พล.ต.ต.วรณัฐ ผันผ่อน ผบก.ภ.จ.ชัยนาท,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.กต.7 จต.,พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.คธม.บช.ทท. เข้าร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมกลุ่มกระบวนการฉ้อโกงออนไลน์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังนี้
คดีที่ 1.จับกุมมิจฉาชีพ ปลอมตัวเป็นแอดมินเพจซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู หลอกลวงให้ผู้ขายโอนเงิน มีผู้เสียหาย แจ้งความร้องทุกข์แล้ว 12 ราย มูลค่าความหาย กว่า 400,000 บาท
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ชุดเทคนิคและสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้จับกุมตัว นายนิตินัย ขุนทอง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1508/2563 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,รับของโจร,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ ต.บางเป้า อ.กันตรัง จ.ตรัง
และในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทคนิคและสืบสวนชุดที่ 2 สามารถจับกุมตัว นายนิติภูมิ ป้องกัน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.296/2563 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” โดยสามารถจับกุมได้ที่ มณีแมนชั่น ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
โดยแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 (1) ความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 357 ความผิดฐาน “รับของโจร” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560,มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
คดีที่ 2.ผลการปฏิบัติการปราบปรามพนันออนไลน์
โดยผลการดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิดฯ และดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในห้วงวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2563 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ในฐานะหัวหน้าชุดประสานความร่วมมือกับ“เพจ อาสาจับตาออนไลน์” กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ควบคุมการปฏิบัติของชุดปฏิบัติ ได้สั่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการตามแนวปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ศปอส.ตร.ได้ทำการสืบสวนฯ
จากนั้นจึงได้ขอหมายค้น นำกำลังเข้าค้นตามหมายค้น ศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 59 /2563 ลงวันที่ 8 ต.ค.63 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 202 ม.5 ต.หนองบัว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นเครือข่ายเวปไซต์พนันออนไลน์ https://www.123gan.net เปิดทำการนับตั้งแต่ เดือนเมษายน 2563 มีเงินทุนหมุนเวียน 300 ล้าน ผลการตรวจค้น ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน,ชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด สามารถจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมด้วยของกลางดังต่อไปนี้ ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ประกอบตั้งโต๊ะ จำนวน 3 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง,เครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมจอ 1 เครื่อง,บัตรกดเงินสด จำนวน 2 ใบ,เอกสารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ชุด และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 ชุด จากนั้นได้ทำการประสานยื่นขอปิดกั้น เว็บไซต์เครือข่ายhttps://www.123gan.net จำนวน 6 เว็บไซต์
ในคราวเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นได้ทำการร่วมกันจับกุม ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 โดยได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ประกอบกิจการเป็นผู้ให้สินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด สามารถจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมด้วยของกลางดังต่อไปนี้ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 5 เครื่อง,เครื่องคิดเลข จำนวน 5 เครื่อง,แฟ้มพนักงานเก็บเงิน จำนวน 1 แฟ้ม และเอกสารบัญชีเงินกู้จำนวน 1 กล่อง
ปัจจุบันพบข่าวดารานักแสดงตกเป็นผู้เสียหายหลายรายที่ได้รับความเสียหาย จากการเล่นพนันออนไลน์ จึงขอเตือนประชาชน หรือผู้โพสต์สนับสนุนเชิญชวนเล่นพันนออนไลน์ อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.การพนัน มาตรา 12 ชักชวน หรือโฆษณาให้มีการเล่นการพนัน โดยผิดกฎหมาย-จำคุก 3 เดือน ถึง 3 ปี ปรับ 500-5,000 บาท
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน สามารถป้องกันตนเองจากการถูกหลอกลวงให้โอนเงินได้ โดยหากมีคนในครอบครัว ญาติ หรือเพื่อน ใช้ Facebook หรือ Line ขอให้โอนเงินหรือชำระราคาสินค้า ให้โทรศัพท์ตรวจสอบไปยังบุคคลนั้นเพื่อยืนยันอีกครั้ง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หากพบเห็นหรือทราบถึงการกระทำความผิด หรือเป็นผู้เสียหายในคดีการหลอกลวงหรือฉ้อโกงออนไลน์ สามารถแจ้งข่าวหรือขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนของ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ที่สายด่วนหมายเลข 1155 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน