รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของนายคิม จอง อึน ประกาศความสำเร็จในการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ ครั้งที่ 5 ซึ่งมีอานุภาพรุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือทดสอบครั้งก่อนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นการฝ่าฝืนมติห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ส่งผลให้นานาชาติออกมาประณามการกระทำครั้งนี้ของเกาหลีอย่างรุนแรง
สถานีโทรทัศน์เคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันที่ 9 กันยายนว่า คณะนักวิทยาศาสตร์และช่างเทคนิคสถาบันอาวุธนิวเคลียร์ได้ทดลองระเบิดนิวเคลียร์ที่สถานีทดลองนิวเคลียร์ทางตอนเหนือของประเทศ เพื่อตรวจสอบอานุภาพของหัวรบนิวเคลียร์ที่เพิ่งศึกษาและผลิตขึ้นใหม่ ผลการตรวจสอบยืนยันว่าไม่มีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลระหว่างการทดลอง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสถานที่ใกล้เคียง
ด้านสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) รายงานว่า การทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดเป็นการยืนยันว่าโครงสร้างและลักษณะพิเศษของหัวรบนิวเคลียร์นี้ได้มาตรฐานที่จะนำไปติดตั้งบนขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ในการเตรียมรับมือกับ “ภัยคุกคาม” จากสหรัฐ
คำประกาศของสื่อทางการเกาหลีเหนือมีขึ้นหลังจากหลายชาติ ทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน สหรัฐและยุโรปตรวจจับแรงสั่นสะเทือนบริเวณฐานทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ และตั้งข้อสงสัยตรงกันว่าอาจเป็นการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
โดยสำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า สามารถตรวจพบแรงสั่นสะเทือนขนาดความแรง 5.3 เมื่อเวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นบนคาบสมุทรเกาหลี ตรงกับเวลา 07.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ระดับผิวดิน ภายในบริเวณที่เป็นอาณาเขตของนิคมนิวเคลียร์พยุงเก-รีในจังหวัดฮัมกยองเหนือ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือที่ใช้ทดลองนิวเคลียร์ตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2549
เช่นเดียวกับ สำนักงานด้านธรณีวิทยาของสหรัฐ(ยูเอสจีเอส) ยุโรปและจีนต่างรายงานว่า ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนระดับพื้นผิวโลก เมื่อเวลาประมาณ 7.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นสูงกว่าการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ของรัฐบาลเปียงยาง เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งยูเอสจีเอสวัดระดับความแรงได้ 5.1
ส่วนโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า เป็นไปได้สูงว่าแรงสั่นสะเทือนที่ตรวจพบนี้ แสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ และสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อมูล
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ระเบิดนิวเคลียร์ลูกล่าสุดที่มีการทดลอง มีอานุภาพรุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่สหรัฐทิ้งโจมตีเมืองฮิโรชิมา ของญี่ปุ่น และเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่ทรงพลังที่สุดนับแต่เกาหลีเหนือเคยทดสอบมา เบื้องต้นเชื่อว่าอาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าวมีขนาดประมาณ 10 กิโลตันมากกว่าการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ที่มีขนาด 6-9 กิโลตัน
หลังการทดลองขีปนาวุปของเกาหลีเหนือ มีปฎิกริยาจากนานาชาติอย่างต่อเนื่อง โดยสภาความมั่นคงเกาหลีเรียกประชุมฉุกเฉินทันที ขณะที่ประธานาธิบดีปัก กึน เฮ ของเกาหลีใต้ประณามการกระทำครั้งนี้ของเกาหลีเหนือเป็นการทำลายตัวเอง
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาประกาศว่า เกาหลีเหนือต้องได้รับบทลงโทษที่เด็ดขาดรุนแรง และโทรศัพท์สายตรงไปหาผู้นำเกาหลีใต้ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ทันทีหลังมีรายงานการทดสอบนิวเคลียร์
โดยนายกรัฐมนตรีอาเบะแถลงว่า การกระทำของเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างเด็ดขาด ญี่ปุ่นได้ยื่นประท้วงเกาหลีเหนืออย่างจริงจังและประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด นอกจากนี้ ยังสั่งการให้นำขีปนาวุธแพ็คทรีเข้าประจำการที่หน้ากระทรวงกลาโหมทันที
เช่นเดียวกับผู้นำรัสเซียกล่าวประณามการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งนี้อย่างรุนแรง ส่วนจีนแสดงความคัดค้านอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องเกาหลีเหนือหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีก พร้อมขอให้ประชาคมโลกอยู่ในความสงบ
นายยูคิยะ อะมาโนะ ผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) แถลงว่า การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างชัดแจ้ง และเป็นการกระทำที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง
ทั้งนี้เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้สหประชาชาติลงมติใช้มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือครั้งใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม และเกิดการคาดเดาว่าเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 หลังสหรัฐประกาศเมื่อวันที่ 6 กรกฏาคมที่ผ่านมาขึ้นบัญชีดำนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือดำเนินการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่สำคัญการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 9 กันยายนยังตรงกับวันครบรอบปีที่ 68 ของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนือด้วย