ทิม คุก ซีอีโอ Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่นครซานฟรานซิสโก เมื่อคืนที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย อัดแน่นด้วยนวัตกรรมที่ไม่มีใครเหมือน หลายคนอาจได้ดูไปแล้ว แบบ live พร้อมๆ กับภายในงาน มาดูกันอีกครั้งว่า สเปคสมาร์ทโฟนตัวใหม่ของ Apple มีอะไรกันบ้าง
เริ่มต้นจากขนาด
iPhone 7 หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล 326 ppi
iPhone 7 Plus หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล 401 ppi
มีปุ่ม home แบบใหม่ จะใช้การทำงานร่วมกับ Taptic Engine ซึ่งเป็นมอเตอร์ระบบสั่น นั่นหมายความว่าแค่แตะก็สามารถทำงานได้แล้ว และมีการทำร่องให้กดไม่ได้ เนื่องจากเป็นชิ้นเดียวกัน นอกจากนี้ iPhone 7 ยังกันน้ำ กันฝุ่นได้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของ iPhone ที่ทำได้ และผ่านการทดสอบใช้งานจริงแล้ว
สำหรับกล้อง มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก เริ่มจาก iPhone 7 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) , รูรับแสง F1.8 , Digital Zoom ได้ 5 เท่า , แฟลช 2 โทน เพิ่มความสว่างขึ้นอีก 50% พร้อมกับการประมวลผลภาพที่เร็วขึ้น รองรับการถ่ายแบบ RAW File และถ่ายวิดีโอ 4K
ส่วน iPhone 7 Plus จะมีกล้อง 2 ตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเช่นกัน โดยตัวแรกเป็นแบบเลนส์ Wide มีรูรับแสง f/1.8 และอีกตัวเป็นเลนส์Tele มีรูรับแสง f/2.8 ที่ซูมได้ถึง 10 เท่า ซึ่งนอกจากกล้อง 2 ตัวนี้แล้ว Apple ยังเพิ่มลูกเล่นที่ฝ่าทางตันของสมาร์ทโฟนอีกด้วย คือการถ่ายรูปแบบลึกตื้น หรือหน้าชัดหลังเบลอ โดยระหว่างการถ่ายจะมีปุ่ม Potrait หรือถ่ายภาพบุคคล ขึ้นมาให้เลือก ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดช่วงปลายปีนี้
***กล้องหน้า มีระบบกันสั่นเหมือนกับกล้องหลัง ความละเอียดเพิ่มเป็น 8 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายเซลฟีและวิดีโอได้ดีขึ้น
Apple ยังได้พัฒนาหน้าจอแสดงผลแบบ Retina HD สว่างที่สุดและแสดงสีสันได้มากที่สุดเท่าที่ iPhone เคยมีมา รองรับการแสดงผลด้วยขอบเขตสีที่กว้างในมาตรฐานเดียวกันกับที่ใช้ในภาพยนตร์ ลำโพงของ iPhone7 เป็นลำโพงสเตอริโอ
หูฟัง เป็นแบบถอดได้ ตามข่าวลือ คือ EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning ที่มีคุณภาพเสียงในระดับสุดยอด และแถมอแดปเตอร์ Lightning to Headphone Jack สำหรับแปลงเป็นแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ที่ช่วยให้สามารถใช้งานร่วมกับหูฟังและอุปกรณ์เสริมแบบเก่าได้
นอกจากนี้ Apple ยังเปิดประสบการณ์แบบไร้สาย AirPods ทำงานคล้ายๆหูฟังบลูทูธ ภายในมาพร้อมชิพ Apple W1 ใหม่ที่ช่วยให้ AirPods สามารถรับส่งสัญญาณไร้สายด้วยประสิทธิภาพสูงสุด จึงเชื่อมต่อได้ดีกว่าและถ่ายทอดเสียงได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น เมื่อชาร์จเต็มสามารถใช้งานได้ 5 ชั่วโมง
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ยังมาพร้อมกับชิพรุ่นใหม่ A10 Fusion เป็นชิพประมวลผล 4 คอร์ 64 บิต โดยคอร์ 2 ตัวแรก ประมวลผลขั้นสูง ทำงานได้เร็วกว่า iPhone 6s ถึง 2 เท่า ส่วนคอร์อีก 2 ตัว เป็นคอร์ประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานเพียง 1 ใน 5 ของคอร์ 2 ตัวแรก ขณะที่ชิพกราฟิก เร็วกว่าชิพ A9 ถึง 50% นอกจากนี้แบตเตอรี่ของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ยังใช้ได้นานกว่า iPhone รุ่นก่อนๆ ราว 2 ชั่วโมง