วันที่ 12 กย.63 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี พบเห็นหนุ่มใหญ่วัยกลางคนปั่นจักรยานสองล้อแบบของเด็กอยู่บนถนนสาย 304 กบินทร์บุรี – นคร
ราชสีมา ขาล่องบริเวณบ้านทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ท่ามกลางอากาศร้อนจัดเหงื่อไหลท่วมตัว ที่ทางอ่อนแรงท้ายรถจักรยานมีกล่องพลาสติกสีดำบรรทุกมาด้วย
ที่ตระแกรงหน้ารถ มีถุงผ้าสีดำใส่มาด้วย และได้จอดรถสอบถามชายหนุ่มคนดัง
กล่าว ชายหนุ่มคนดังกล่าวบอกจักรยานมาจากสระบุรีเมื่อ 3 วันแล้ว จุดหมาย
ปลายทางคือ จ.บุรีรัมย์ เมื่อ2 อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปทำงานที่ จ.สระบุรี ก่อนหน้านี้ในหมู่บ้าน มีร้านค้าพ่อค้าตลาดนัดเล่ย์ไปตั้งร้านค้าขายของทุกอย่าง 20 บาท
ในหมู่บ้าน โดยได้เห็นทางเจ้าของร้านเขียนป้ายว่ารับสมัครคนช่วยขายของ
จึงสอบถาม และได้สมัครเป็นคนช่วยขายของพร้อมกับไปอยู่กับเจ้านายจ้างที่
สระบุรี ได้รับค้าจ้างรายวันและเบิกเงินค่าแรงล่วงหน้าซึ่งทางนายจ้างให้เบิก ต่อมารถบรรทุกของนายจ้างเกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้ออกขายของตามตลาดนัด เมื่องานไม่มีก็ขอนายจ้างกลับบ้านและรับปากจะใช้หนี้คืน ถ้าได้งานทำ หนุ่มใหญ่บอกว่า
ตอนนี้หิวน้ำอยากขอน้ำกินและยังไม่ได้ข้าว ผู้สื่อข่าวจึงเอาน้ำในรถให้ 1 ขวดและจะพาไปกินข้าวที่ร้านค้าริมทางข้างหน้า ต่อมาชายหนุ่มได้ปั่นจักรยานตามมาที่ร้าน “ไก่ย่างจินดากบินทร์บุรี” โดยชายหนุ่มคนดังกล่าวหิวข้าวมาก ผู้สื่อข่าวให้สั่งอาหารตามสั่ง สั่งกินให้อิ่มไม่ต้องเกรงใจ ชายหนุ่มบอกขอสั่ง ข้าวเหนียวกับส้มตำแค่นี้ก็พอ ผู้สื่อข่าว
สั่งข้าวเพิ่มให้อีก 2 ห่อ และสั่งข้าวผัดให้ แต่หนุ่มใหญ่ไม่ขอรับเพิ่ม ผู้สื่อข่าวถาม
ถามชื่อซึ่งทราบว่าชื่อนายสมศักดิ์ เงางาม อายุ 55 ปีอยู่บ้านเลขที่ 43 ม.10 ต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงปั่นมาจุดนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนแรกตนคิดว่าจะปั่นจักรยานกลับบุรีรัมย์ โดยปั่นมาตามถนนสาย 304มุ่งหน้าเข้า อ.ปักธงชัย
จ.นครราชสีมา และจะมุ่งหน้าเข้าบุรีรัมย์ต่อไปแต่เมื่อปั่นมาถึงทางขึ้นเขา
ช่วงบ้านทุ่งโพธิ อ นาดีจ.ปราจีนบุรี ข้างหน้าจะเป็นทางขึ้นเขาคงยากต่อ
การปั่นจักรยานขึ้นภูเขาและที่สำคัญ รถบรรทุกเยอะเป็นทางด่วนและคับแคบ จึงเปลี่ยนย้อนกลับมาเพื่อที่จะไปทาง จ.สระแก้วและนึกได้ว่า มีญาติคนหนึ่งอยู่ที่เขาฉกรรจ์ จะขออาศัยทำงานเพื่อหาเงินจะได้มีเงินใช้ในชีวิตประจำวัน และมีงานทำอาจมีเงินใช้หนี้คืน
นายจ้างคนเก่าที่เบิกมาใช้2,000 บาท ตนเองอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีคนรอบครัวพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว อยู่ตัวคนเดียวก็อยู่ได้ ไม่อยากได้เงินบริจาคจากใคร ระหว่างทาง
มีคนจะให้อาศัยรถไปด้วยและจะช่วย ตนเกรงใจเขาบอกปั่นไปตามทาง ค่ำไหน
นอนนั่น มีก็กิน ไม่มีก็อดเอาใครให้ข้าวให้น้ำก็เอา หากใครสงสารจะให้ทำงานก็ทำ
เพื่อจะได้พอมีพอกินไปวันๆไม่เรียกร้องอะไรจากใครแค่มีกิน หรือมีงานทำไปวันๆก็
พอใจแล้ว ตัวคนเดียวไม่มีภาระอะไร ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์มือถือใช้…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์