วันที่ 2 ก.ย.63 เวลา 10.30 น.ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ : นายอัจฉริยะ วิโรจน์สุโนบล หรือ เจ้าแม็กซ์ อัจฉริยะ อำนาจมวยไทยยิม อดีตแชมป์สภามวยแห่งเอเชีย (WBC เอเชีย) รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท และภรรยา พร้อมนายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ ไปยื่นร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่ออุทธรณ์พิจารณาเงินเยียวใหม่ หลังถูกปฏิเสธเนื่องจากในคำพิพากษาของศาลจังหวัดระนอง มีคำวินิจฉัยว่ายกประโยชน์อันควรสงสัยให้แม็กซ์จำเลยในคดีร่วมกันค้ายาเสพติด จึงไม่เข้าเกณฑ์จ่ายเงินเยียวยา ซึ่งนายวรกร ทนายความ เปิดเผยว่า ใช้ขั้นตอนพิจารณาจ่ายเงินผู้เสียหายในคดีอาญา โดยเฉพาะจำเลยในคดีที่ศาลตัดสินให้พ้นผิด อยากให้เกิดการสอบสวนข้อเท็จจริงตามฟ้อง ไม่ใช่อ่านแต่ท้ายคำสั่ง แล้วจะเห็นว่า แมกซ์ถูกกล่าวหาทั้งที่ไม่มีมูลความจริง จนต้องเข้าเรือนจำนานถึง 14 เดือน
แม็กซ์ กล่าวพร้อมน้ำตาซึมต้องซับน้ำตาตลอด ว่า ตัวเองต้องตกเป็นหนี้หลายแสนบาทจากการนำเงินมาต่อสู้คดีช่วงที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้ร่วมค้ายาเสพติดโดยเงินบางส่วนจ่ายให้กับทนายความชื่อดังก่อนหน้านี้แต่คดีไม่ได้รับการช่วยเหลือซึ่งตอนนี้เมื่อพ้นผิดก็อยากจะได้เงินเยียวยาส่วนหนึ่งจากภาครัฐแม้ว่าจะไม่พอต่อการชดใช้หนี้สินแต่อยากให้ภาครัฐช่วยรับผิดชอบจากกระบวนการยุติธรรมที่กล่าวหาตนเองเป็นผู้ค้ายาเสพติดทั้งที่ไม่ได้ทำ
ตอนนี้ภาพการช่วยเหลือเจ้าแม็กซ์ หลังพ้นผิดข้อหาค้ายาเสพติด มีสภามวยแห่งเอเชีย ได้มอบเงินส่วนหนึ่งช่วยมาบ้าง และเปิดโอกาสให้ฟื้นฟูสภาพร่างกายเพื่อเตรียมกลับมาทวงแชมป์คืนอีกครั้ง
ส่วนการทวงคืนความยุติธรรม ที่ก่อนหน้านี้มาร้องเรียนไว้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ทราบว่า DSI ได้ส่งเรื่องไปที่ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา โดยนายวรกร ยื่นร้องเอาผิดกับตำรวจทุกนาย สถานีตำรวจภูธรเมืองระนอง ฐานร่วมกันจับกุมกล่าวหานายแมกซ์ เป็นผู้ร่วมค้ายาเสพติด และเตรียมจะไปร้องเรียนกับป.ป.ช.ให้เร่งส่งเรื่องกับมาที่ดีเอสไอ เพื่อเร่งดำเนินการเอาผิดตำรวจที่ทำคดีนี้ให้รวดเร็ว
สำหรับเงินเยียวยาที่จะได้รับจากการติดคุกฟรี กำหนดวันละ 500 บาท แม็กซ์ติดคุกนาน 14 เดือน ถ้าได้รับเงินจะได้ประมาณ 2 แสนบาท เจ้าแม็กซ์เดือดร้อนที่พ่อแม่ต้องเอาที่ดินไปขาย กู่เงินนอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อวัน เพื่อมาสู้คดีและใช้จ่าย ถ้าได้เงินก้อนนี้ไปจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้เจ้าแม็กซ์ได้เป็นอย่างมาก
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน