จัดระเบียบรถตู้ดีเดย์ 25 ต.ค.นี้ ส่อแวววุ่น เหตุประชาชนไม่ได้รับความสะดวก ค่าโดยสารไม่ลดราคาตามที่คุย ด้าน บขส. ประสานงาน ขสมก. จัดรถรับส่งผู้โดยสารจาก “จตุจักร-เอกมัย-สายใต้ใหม่” เข้าอนุสาวรีย์ โวทำให้จราจรคล่องตัว วิ่งได้เร็วขึ้นในชั่วโมงเร่งด่วน …
นายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ทหาร ตำรวจ กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เพื่อเตรียมความพร้อมจัดระเบียบรถตู้และทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรถตู้ รวมถึงประชาชน ก่อนที่จะย้ายรถตู้โดยสารสาธารณะหมวด 2 ไปที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร 3 แห่งคือ สถานีจตุจักร สถานีสายใต้ใหม่ และสถานีเอกมัย ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ซึ่งจะมีรถตู้โดยสารที่จะถูกจัดระเบียบกว่า 4,205 คันนั้น
เบื้องต้น ผู้ประกอบการรถตู้ พร้อมที่จะย้ายจุดจอดรถตามที่คณะทำงานดำเนินการเสนอ พร้อมยอมรับว่า ผู้โดยสารอาจจะไม่ได้รับความสะดวกเหมือนเคย ส่วนเรื่องค่าโดยสารที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า หากจัดระเบียบรถตู้ อาจจะปรับค่าโดยสารลงนั้น ในเรื่องนี้เบื้องต้นค่าโดยสารจะยังไม่ปรับลดลง โดยกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอประเมินผลดี ผลเสีย ผลกระทบ ภายใน 6 เดือน ตั้งแต่ พ.ย.59-1 พ.ค.60 ถึงจะพิจารณาว่า ค่าโดยสารจะปรับลดค่าโดยสารลงหรือไม่
ทั้งนี้จากการรายงานพบว่า หากมีการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะทั้ง 3 จุดจอดรถแล้ว จะทำให้ปริมาณการจราจร รอบๆ อนุสาวรีย์ชัยภูมิ และพื้นที่โดยรวมรอบกรุงเทพฯ มีความคล่องตัวมากขึ้น จากเดิมมีความเร็วเฉลี่ยที่ 36.4% จะมีความเร็วเพิ่มขึ้นอีก 0.5% ในชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ได้มีการประสานงานไปยัง ขสมก. และ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. จัดรถเมล์ ขสมก. มารับส่งผู้โดยสารจากทั้ง 3 สถานี มายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และขอยกเว้นค่าผ่านทางด่วน ระยะเวลา 6 เดือน ให้กับรถเมล์ ขสมก. ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารจาก 3 จุดจอดรถ
พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน เสนาธิการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร มีความกังวลว่าหากปรับจุดจอดรถ จะทำให้รายได้ลดลง จึงได้ขอให้ กระทรวงคมนาคม และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ 4 แนวทางด้วยกัน คือ 1.ขอให้พิจารณาปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 2.พิจาณาปรับลดอัตราค่าเบี้ยประกันรถ 3.จัดหาสถาบันการเงินให้กับผู้ประกอบการ 4.จัดหาเชื้อเพลิงราคาถูกให้กับผู้ประกอบการ โดยทางคณะทำงานขอเวลาพิจารณาปัจจัยต่างๆภายในระยะเวลา 6 เดือน หลังจากย้ายจุดจอดรถทั้ง 3 จุด
สำหรับรถตู้โดยสารหมวด 2 ของ บขส. ทั้งหมด 4,205 คัน แบ่งเป็นการย้ายไปที่สถานีจตุจักร เส้นทางเดินรถสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ 97 สายทาง รวม 2,046 คันต่อคัน สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ 1,617 คัน และสถานีเอกมัย เส้นทางสายตะวันออก 542 คัน.