วัดโคกหม้อ มีพิธี ทอดกฐินประจำปี 2563 ในวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2563 ขอเชิญชวนศิษย์ยานุศิษย์ ประชาชน มาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินประจำปีนี้
พระครูสีลสังวรวิสุทธิ์ ( หลวงพ่อพิเชฐ) เจ้าอาวาสวัดโคกหม้อ พระเกจิ ชื่อดัง ผู้สร้างตำนาน พระหูยาน เนื้อเมฆพัตร ที่โด่งดังไปทั่วแผ่นดิน สยาม และ ทั่วประเทศในเมืองไทย
ที่มี ศิษย์ยานุศิษย์ ทุกพื้นที่ทั่วไทย หลับไหลมาที่วัด เกือบทุกปี
คณะกรรมการวัดโคกหม้อ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ต่อหลวงพ่อพิเชฐ พระเกจิชื่อดัง แห่งเมืองลพบุรี ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียง. ร่วมบริจาค จตุปัจจัย ไปทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพ ทอดกฐิน ประจำปี 2563 เพื่อรวบรวมนำสมทบการบูรณปฏิสังขรณ์บริเวณ วัดโคกหม้อ ซึ่งถือเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามที่สืบ เนื่องมาจากแต่โบราณก่อนให้เกิดความมั่นคง แห่งพระพุทธศาสนาให้วัฒนาถาวร รวมทั้งเพื่อสนับสนุนวัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ พระธรรมวินัยเป็นศูนย์รวมของประชาชน รายการจัดพิธีวันสำคัญต่างๆ โดยผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบริจาค ปัจจัย มาร่วมทำบุญได้ที่วัด โคกหม้อ หรือจะจองเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีประจำปี 2563 กล่องละ 3,999 บาท
ท่านจะได้พระหูยาน เนื้อนาค ด้านหลังเป็นหนุมานเชิญธง จำนวน 1 ชุด หรือท่านจะบริจาคปัจจัยจำนวนเงิน 500 บาทจะได้พระหูยาน 1 องค์
วัดก็ยินดี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรรมการ วัดโคกหม้อ. ตำบลโพธิ์เก้าต้น. อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ไม่มีวันหยุดราชการ มาทำบุญกฐินสามัคคีกัน ท่านจะได้บุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ มาร่วมเป็นเจ้าภาพ กฐินสามัคคีกัน แล้วหลังทำพิธี ทอดกฐินสามัคคีเสร็จแล้วมีการ รดน้ำขอพรพระเดชพระคุณหลวงพ่อพิเชฐ. ผู้สร้างตำนานพญาครุฑ. พระหูยานเมฆพัด พระเกจิชื่อดังและเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกหม้อ อีกด้วยในปีนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พิเชษฐ์ พระเกจิชื่อดัง ในปีนี้ จัดสร้างพระหูยานเนื้อนาค ด้านหลังเป็นหนุมานเชิญธง
.ที่หลวงพ่อท่านตั้งใจ
ทำให้ทุกคนได้บูชา พระหูยาน เนื้อนาค ด้านหลังหนุมานเชิญธง เอาไว้ติดตัว..เตรียมรับความมั่งคั่ง ร่ำรวย มีโชคลาภ กันได้เลย.. ความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยจะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างไม่มีข้อสงสัยเช่นกัน…
หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ จ.ลพบุรี
หลวงพ่อเป็นพระสงฆ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน ยิ่งตกทุกข์ได้ยาก ท่านจะเมตตาสั่งสอนให้ดำเนินชีวิตให้ดีขึ้น เป็นพระอีกหนึ่งรูปที่หาได้ยากในยุคโลกาภิวัฒน์
ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เก่งแต่ไม่เปิดเผย โดยท่านได้เรียนตำราของหลวงตาจันทร์วัดนางหนู โดยผู้ใหญ่ฟื้นและ พ.ท.ปัญโญ เปรมทรัพย์ ลูกศิษย์ของหลวงตาจันทร์ ได้มอบตำราที่เขียนด้วยลายมือของหลวงตาจันทร์ มอบให้หลวงพ่อพิเชษฐ์ และท่านได้ร่ำเรียนวิชาจากครูอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิเช่น หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทองและหลวงปู่มัง วัดเทพกุญชร
ประวัติโดยสังเขป
หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ…ถือว่าท่านเป็นพระเป็นที่รู้จักกันโดยทั่ว
ในยุคปัจจุบัน..ถ้าพูดถึงพระเกจิในลพบุรียุคนี้..ต้องมีชื่อท่านอยู่ด้วยเสมอ ท่านเป็นชาวนครสวรรค์ เกิดที่นั่น..เรียนหนังสือที่นั่น..มูลเหตุสำคัญที่ทำให้ท่านสนใจด้านคาถาอาคม เริ่มจากวันหนึ่งท่านได้มีโอกาสพบท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์ชุมได้แสดง..ศาสตร์แห่งคาถาอาคมให้ชมทำให้ท่านศรัทธาในศาสตร์แห่งนี้…จึงเริ่มศึกษา
มาตั้งแต่วัยเรียน..จนท่านบวชเป็นพระอาจารย์ที่ท่านได้ขอเป็นลูกศิษย์แรกก็คือท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ท่านเรียนวิชาต่างๆ จากอาจารย์ชุม..เรียกว่าครบกระบวนของสายเขาอ้อ..จากนั้นท่านก็ออกแสวงหาครูอาจารย์เพิ่มเติมอีกมากมายหลายท่านด้วยความที่ว่าท่านเป็นคนจริงจะศึกษาวิชาอะไรต้องได้รับการยินยอมจากครูอาจารย์ก่อน..เรียกว่าต้องยกขันครูกราบเรียนวิชากันอย่างถูกต้องจริงๆก่อน..ถึงเรียกว่าเป็นศิษย์ครูอาจารย์กันจริงมิได้แอบอ้าง
ครูอาจารย์ที่ท่านได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆ มีหลายท่านได้วิชาแท้ๆ เต็มๆ ของแต่ละสายมาเยอะมากอย่างวิชาของนครสวรรค์ เช่นหลวงพ่อเดิม ท่านก็ได้รับการถ่ายทอดมาโดยตรงจากศิษย์หลวงพ่อเดิมที่มอบต่อมาให้ท่าน..เป็นวิชาที่เต็มสูตร(เหตุที่ว่าเป็นวิชาที่เต็มสูตรก็คือ บางครั้งท่านจะไปเรียนกับพระผู้ใหญ่สายนี้บางท่านแต่พอไล่วิชากันไปมากับพบว่าที่ท่านมีมากกว่าเยอะ..เลยต้องเป็นคนสอนแทน)
วิชาสายหลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน ก็ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่ออ้วนวัดหนองกระโดน องค์ปัจจุบัน..พร้อมได้ศึกษาตำราโบราณของวัดที่หลวงพ่อพวงท่านเก็บไว้มากอีกด้วย…โดยเฉพาะวิชาทำปลัดขิกเป็นสูตรเต็มซึ่งยาวกว่าที่ได้รับมาจากหลวงพ่อยิด..มากกว่าเยอะ..จากนั้นท่านก็ได้ศึกษากับหลวงพ่อกวย อีก..ได้รับมอบตำราจากหลวงพ่อกวยมา เป็นตำราครูซึ่งแรงมาก..ต้องวางไว้บนพานที่โต๊ะพระ..และห้ามเปิดอ่านถ้าไม่ได้รับการครอบครูหรือถ่ายทอดฐานะศิษย์ก่อน..ไม่งั้นจะเป็นภัย
ในสายลพบุรีท่านก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาของหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู..จนหมด..จากศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดโดยตรง จากนั้นก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่มัง มังคโล วัดเทพกุญชร ลพบุรี ศิษย์โดยตรงของหลวงพ่อสิริจันโท อีกองค์เดินเข้าสระบุรี..ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทองโดยเฉพาะวิชาทำตะกรุดภุชงค์..(ปัจจุบันมีผู้รู้คาถาทำตะกรุดนี้แท้ๆสาม สี่องค์ เท่านั้น ที่หลวงปู่เฮ็นถ่ายทอดให้) จากนั้นท่านก็ ธุดงค์ไปตามป่าเขาไปทั่วประเทศเจอครูอาจารย์อีกหลายท่าน..ได้รับการถ่ายทอดมาอีกมาก
ในระหว่างธุดงค์ไปทั่วประเทศท่านได้สร้างวัดไว้หลายวัด
แล้วออกธุดงค์ต่อ..จนท่านกลับมาช่วยวัดโคกหม้อสร้างพระอุโบสถ
(วัดนี้สมัยก่อนหลวงปู่จันเคยอุปถัมป์)ท่านสร้างพระอุโบสถแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี..ก่อนเตรียมออกธุดงค์ต่อแต่ชาวบ้านขอให้ท่านอยู่พัฒนาวัดก่อน..ทำไปทำมาท่านเลยไปได้ไปไหนต่อ..แต่ก็ยังออกธุดงค์เป็นประจำปีละครั้งจนตอนหลังภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบในฐานะพระครูและเกรงใจญาติโยมที่มาหา..ระยะหลังเลยไม่ได้ออกธุดงค์
ในปัจจุบันถือว่าท่านเป็นพระที่ใคร ๆ ในวงการพระต่างรู้จัก
ผ่านมาตรงเข้าไปกราบไหว้ หรือตั้งใจมากราบจากที่ไกลๆก็มาก
แม้แต่อธิบดีตำรวจ หรือนายกคนก่อน ต่างก็เคยมากกราบแล้วทั้งนั้น
จากพระที่คนรู้จักเพียงท้องถิ่น..ขึ้นสู่พระที่รู้จักกันทั่วประเทศ
สิ่งที่ทำให้ท่านมีชื่อเป็นที่รู้จัก..อันดับแรกคือปลัดขลิก แรกเลยท่านจะทำด้วยไม้แกะ..เรียกว่าทำเล่นไม่กี่ตัวเป็นปลัดจากไม้กัลปังหาดำ
สร้างน้อยมากไม่ถึงร้อยตัวจากนั้นก็เริ่มสร้างจากกัลปังหาแดง ซึ่งน้อยกว่าดำมากเพราะหาตามตำรายากหน่อย ไม่กี่สิบตัวแล้วสุดท้ายท่านก็สร้าง ด้วยกัลปังหาขาวซึ่งน้อยกว่าอย่างอื่น..ด้วยความหายาก
จึงสร้างเพียงสิบกว่าตัว ด้วยความที่คนที่ไม่ได้อยากได้ไว้บ้างโดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้า..อยากได้ไว้ค้าขาย ท่านจึงสร้างด้วยไม้ไว้แจก..จนหมดไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่พอกับความต้องการ ท่านจึงให้สร้างเป็นเนื้อโลหะ..ที่นี้สร้างหลายร้อยตัวแต่ที่ทำให้ที่ดัง..เกิดจากการยิงถล่มกันของหัวคะแนนคนที่พกไว้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย..
และยังมีประสบการณ์จากชาวบ้านแถวนั้นโดนงู โดนหมากัดแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอีก..จึงทำให้เป็นที่ต้องการขึ้นไปอีก..จนไม่พอ ต้องทำเพิ่มอีกรุ่น แต่ไม่นานเกิดเรื่องผีเข้า ระบาด แถวชานเมือง มีคนเอาไปจี้ทำให้ผีออก..จึงไปดังด้านไล่ผีอีก..ในปัจจุบัน..ท่านต้องทำปลัดขลิกติดวัดไว้ตลอด เพราะ คนที่มากราบต่างก็อยากได้ไว้
อีกทั้งหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ ท่านมีความเมตตาต่อญาติโยมทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจน ท่านเคยพูดกับผมไว้ว่า เขาลำบากมาต้องช่วยเขา ถ้าชาวบ้านอยู่ไม่ได้ วัดก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ถ้าหากใครดวงตกดวงแตก ดวงกระแทก แดกดัน ท่านก็จะสะเดาะเคราะห์บังสกุลให้ โดยมิได้กำหนดราคาค่างวดแต่อย่างใด ดังที่ท่านพูดว่า เขาลำบากมาต้องช่วยเขา ถือได้ว่าท่านเป็นพระดีที่เปี่ยมด้วยความเมตตาอย่างแท้จริง กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
ใจรัก วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี