สื่ออังกฤษรายงานในวันอังคาร(30ส.ค.) ว่าอุกกาบาตลูกหนึ่งพุ่งผ่านโลกในระยะแค่ 50,000 ไมล์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยที่เหล่านักดาราศาสตร์สังเกตเห็นล่วงหน้าแค่วันเดียว กระพือความกังวลว่าอาจมีสักวันที่อุกกาบาตพุ่งเข้าชนโลกและกวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ชนิดที่ว่าผู้คนไม่มีโอกาสได้สวดมนต์ภาวนากันแม้แต่น้อย
เป็นเรื่องดีที่เชื่อว่าเหล่านักดาราศาสตร์ของนาซา กำลังคอยเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดต่อหินอวกาศทำลายล้างที่ลอยล่องผ่านอวกาศทุกลูก แต่ความจริงได้ปรากฏแล้วว่าอาจมีอุกกาบาตบางลูกเล็ดลอดสายตา และอาจพุ่งชนโลกกวาดล้างชีวิตมนุษย์โดยที่ไม่ทันตั้งตัว
เมื่อวันอาทิตย์(28ส.ค.) อุกกาบาตลูกใหญ่ ชื่อว่า 2016 QA2 พุ่งผ่านโลกใกล้จนน่าขนลุก ภายในระยะ 50,000 ไมล์(ราว 80,000 กิโลเมตร) แต่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าก็คือมันเพิ่งถูกตรวจพบโดยหอดูดาวโซเนียในบราซิล หนึ่งวันก่อนหน้านั้น
แม้อุกกาบาตลูกนี้ค่อนข้างเล็กมีความกว้างราว 25 ถึง 55 เมตร แต่มันก็อาจเพียงพอที่จะก่อความเสียหายแก่โลก หากว่ามันพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
ข้อสันนิษฐานนี้ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายเกินไป เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุอุกกาบาตขนาดเล็กกว่านี้เล็กน้อยระเบิดกลางอากาศเหนือท้องฟ้าเมืองเซลยาบินสก์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,200 คน ขณะที่ประมาณการกันว่า อุกกาบาตที่สามารถกว้างล้างมนุษย์ได้ จะต้องมีขนาดความกว้างราวๆ 0.6 ไมล์(หรือราวๆ 1 กิโลเมตร)
เหล่านักวิทยาศาสตร์สามารถระบุหินอวกาศทำลายล้างเหล่านี้ได้ราวๆ 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่อุกกาบาตลูกยักษ์สักลูกพุ่งเข้าชนโลกโดยที่มนุษย์ยังไม่ทันตั้งชื่อให้มันด้วยซ้ำ