หมอเปรม เข้าพบผู้ว่าฯ ขอนแก่น ก่อนใช้จังหวะพบปะสื่อ นั่งคุกเข่าและยกมือไหว้ต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมวิงวอนบอกว่ากลัวแล้ว อย่าทำอะไรอีกเลย
(30 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือ หมอเปรม นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ที่ถูก ม.44 สั่งพักงานทุกอย่างในสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดกับนาย เดชคำรณ สิงห์คลีบุตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด บุกรุกที่สาธารณะเพื่อทำรีสอร์ทกอบโกยหาผลประโยชน์
โดยบรรยากาศที่ นายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ได้บอกกับทางผู้ว่าฯ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในกรอบเวลา 15 วัน เหมือนกับเรื่องของตนเองที่กระทำการคุกคามสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวภาพหมอเปรมแต่งงานกับเด็กนักเรียนหญิง ม.5 ทางผู้ว่าฯ ก็บอกว่ามันคนละเรื่องกัน ระยะเวลาการเกิดเรื่องมันไม่เท่ากัน
ทางนายแพทย์เปรมศักดิ์ ก็ยังบอกอีกว่า มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองต้องทำให้เร็ว ทางผู้ว่าฯ ก็ย้ำว่า จะรับเรื่องไว้และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทางนายแพทย์เปรมศักดิ์ ก็ยังพูดกับผู้ว่าฯ อีกว่า ท่านผู้ว่าฯ อย่าเลือกปฏิบัติ และพอยื่นหนังสือเสร็จ ก็เดินมุ่งหน้าไปที่ประตูทางออก
ทางผู้ว่าฯ ก็บอกให้สัมภาษณ์ทางหมอเปรมเลย เมื่อสื่อขอสัมภาษณ์ นายแพทย์เปรมศักดิ์ ก็ได้นั่งลงยกมือไหว้สื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าว และพูดว่า “อย่าทำผมเลยครับ ผมกลัวแล้ว กลัวนักข่าวครับ กลัวครับ กลัวครับ กลัวมากเลยครับกลัวนักข่าว ขอโทษนะครับผมกลัวแล้วครับ อย่าทำอะไรผมเลยครับ ผมแค่ประชาชนตัวเล็กๆ ครับ อย่าทำอะไรผมเลยครับ ขอร้องละครับ เอาเรื่องผมร้องทุกข์ท่านผู้ว่าดีกว่าครับ มีประโยชน์ต่อส่วนรวมครับ”
ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ท่ามกลางความมึนงงของสื่อมวลชนและท่านผู้ว่าฯ เพราะแค่จะเข้าไปสัมภาษณ์ถึงประเด็นที่มาในวันนี้เท่านั้น
นอกจากนี้ ทางนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ยังได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ภายหลังการเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและยังอยู่ในห้องทำงานของท่านผู้ว่าฯ ได้มีสื่อมวลชนกรูเข้ามาประชิดตัวผม
อ้างว่าจะขอสัมภาษณ์ข่าวซึ่งผมเองบอกว่าเป็นการยื่นหนังสือเรื่องการบุกรุกที่สาธารณะของนักการเมืองระดับจังหวัด เพื่อประโยชน์ส่วนตน บริเวณอ่างเก็บน้ำเก็งละว้า ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมชลประทานและเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดของจังหวัดขอนแก่นเป็นประโยชน์ทั้งทางเกษตรกรรรม ประมงน้ำจืด และเป็นแหล่งผลิตน้ำประปาอีกด้วย
ซึ่งในขณะนี้ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดขอนแก่น นายเรืองโชค ชัยคำรงค์กุล ได้มีหนังสือให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากเขตชลประทาน ถึง นายเดชคำรณ สิงคลีบุตร ซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ให้หยุดบุกรุกและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ภายใน 30 วัน
หากพ้นกำหนดและยังมีการฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติไว้สูงสุด ปรากฎว่านักข่าวสื่อมวลชนกลับไม่มีใครสนใจในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ต่อส่วนรวมนี้เลยแต่พยายามที่จะกดดันให้ผมสัมภาษณ์ประเด็นส่วนตัว ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเลยจนผมต้องทรุดตัวลงไหว้เพื่อขอความเมตตาอย่าคุกคามผมเหมือนตนเป็นเหยื่อของสื่ออีกเลย แล้วจึงขอตัวออกมาจากห้องผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ ซึ่งถือว่าเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เห็นในภาพ เพราะทางสื่อมวลชนไปเพียงแค่ 3 สำนักเท่านั้น
นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ทางนายแพทย์เปรมศักดิ์ ใช้คำผิดในการเข้าพบ ไม่ได้เป็นการมาขอความเป็นธรรมแต่อย่างใด แต่เป็นการมายื่นหนังสือร้องเรียน ซึ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่ทาง นายแพทย์เปรมศักดิ์ บอกให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในกรอบเวลา 15 วัน เหมือนเรื่องตัวเองนั้น มันคนละเรื่องกัน ระยะเวลาการเกิดมันสั้นยาวไม่เท่ากันแล้ว ซึ่งยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว สามารถตรวจสอบการทำงานของจังหวัดได้ตลอด
ทางด้าน นายเดชคำรณ สิงคลีบุตร สจ.เขต อ.บ้านไผ่ ซึ่งเป็นบุคคลที่หมอเปรมทำหนังสือร้องเรียนในวันนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ที่ดินที่อยู่ใกล้กับแก่งละว้า บ้านชีกกค้อ ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ ซึ่งตนได้ดำเนินกิจการเป็นร้านอาหาร และรีสอร์ทซึ่งหมอเปรมได้ร้องไปนั้น มันไม่ใช่ที่ของตน แต่เป็นที่ของกรมชลประทาน
ซึ่งผู้ที่ได้รับอนุญาตจากกรมชลประทานให้เข้าทำกิจการคือ นางขวัญญาดา อนุชน เป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบการธุรกิจโรงแรมชิคาโก้ ไอแลนด์รีสอร์ท เลขที่ 119 หมู่ 13 บ้านชีกกค้อ ตนเองเป็นเพียง คนเช่าต่อในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางกรมชลประทานยังไม่มีนโยบายในการทำประโยชน์ ตนจึงขออนุญาตทำกิจการไปก่อน หากทางกรมชลประทานมีนโยบายจะทำอะไรตนก็ยินดีออกไป โดยไม่ได้คิดจะยึดเป็นของตนเอง ซึ่งตนเคยชี้แจ้งไปหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะหมอเปรมได้ร้องเรียนมาตั้งปี 2543