วันที่ 16 ก.ค.63 เวลา 10.00 น.ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม.: พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย,พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6,พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีคนต่างชาติกระทำความผิดรายสำคัญ และคดีที่น่าสนใจ 3 คดีดังนี้
1.สืบสวนตม.6 ปิดล้อมพักแรงงานต่างด้าว จับกุมยาเสพติดและการพนัน (หวยใต้ดิน) เจ้าหน้าที่กองกับการสืบสวนตม.6 ลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว ข้อมูลกลุ่มคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง หรือลักลอบทำงานโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อเป็นการตรวจสอบป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสCOVID19 โดยงานสืบสวนฯได้รับหนังสือร้องเรียนว่า ในพื้นที่ ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา มีสถานประกอบการปศุสัตว์ (ฟาร์มสุกร) ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่ที่ 1 ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการใช้แรงงานต่างด้าวในกิจการดังกล่าว และให้ข้อมูลว่า มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและ เล่นการพนัน (หวยใต้ดินไทย และมาเลเซีย) จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลและทำคำร้องขอหมายค้นไปยังศาลจังหวัดนาทวี เพื่อเข้าตรวจค้น
เมื่อศาลนาทวีอนุมัติหมายค้นแล้ว ชุดกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.6 นำโดย พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 นำกำลังเข้าขอตรวจค้นพร้อมกับแสดงหมายค้นให้แก่ผู้ครอบครองสถานที่ จากการตรวจค้นฟาร์มสุกรดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 37 คน และแรงงานสัญชาติลาว จำนวน 2 คน และตรวจสอบ-จับกุม คนไทย และคนต่างด้าวที่การกระทำความผิดดังนี้
1.1 จับกุม นาย LIN AUNG และนาย Mr.EIKE AUNG สัญชาติเมียนมา ในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”
1.2 จับกุม นาย วิน (Mr.WIN) สัญชาติเมียนมา ในข้อหา “ผลิตและครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำกระท่อม,กากใบพืชกระท่อม)โดยผิดกฎหมาย”
1.3 จับกุม นางสุกัญญา ในข้อหา “เป็นคนเดินโพยสลากกินรวบ (หวยใต้ดิน) รับกินรับใช้ฝ่ายเจ้ามือ พนันเอาทรัพย์สินซึ่งกันและกัน โดยผิดกฎหมาย” นำส่ง พงส.สภ.สะเดาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2.สืบสวนตม.6 แกะรอยจาก Social รวบครูฟุตบอลผิวสี กบดาน OVERSTAY กว่า 2 ปี ตามสั่งการกำชับการปฏิบัติของ พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 ให้ทุกหน่วยงานในสังกัด บก.ตม.6 เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง และคนต่างด้าวที่กระทำผิดตามพ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาต่างๆ ในเขตพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ นั้น
พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.6 หาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต่างด้าวที่กระทำความผิดทั้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีความหลากหลายของบุคคลต่างด้าวในพื้นที่จึงได้ทำการหาข้อมูลกิจการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับคนต่างด้าว โดยมีการหาข้อมูลในสื่อออนไลน์ (FACEBOOK)
พบคนต่างชาติผิวสีทำหน้าที่เป็นครูฝึกสอนฟุตบอลอยู่ในสโมสรแห่งหนึ่ง จึงได้ทำการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากสื่อออนไลน์ รวบรวมข้อมูลที่สามารถบ่งชี้ถึงตัวบุคคลเป้าหมาย (ชื่อ-สกุล,กลุ่มสัญชาติผิวสี) และได้นำข้อมูลของคนต่างด้าวผิวสีเป้าหมายเข้าสืบค้นในระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) พบว่าคนต่างด้าวเป้าหมายคือ นาย NTSANDO สัญชาติแคมเมอรูน ซึ่งอยู่เกินกว่ากำหนดอนุญาตกว่า 2 ปี โดยไม่ได้มีการขอขยายเวลาอนุญาตแต่อย่างใด และเชื่อว่า นาย NTSANDO ยังคงทำงานเป็นครูฝึกสอนฟุตบอลอยู่ในสโมสรดังกล่าว
ชุดสืบสวนฯ จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบพบนาย NTSANDO ยังคงทำงานเป็นครูฝึกสอนฟุตบอลอยู่จริงโดยไม่มีการขยายเวลาอนุญาต (ต่อ VISA) และไม่มีการขอใบอนุญาตเพื่อมาทำงานอย่างถูกกฎหมายแต่อย่างใด ชุดสืบสวนฯจึงได้ทำการควบคุมตัวและดำเนินคดีในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากำหนดอนุญาต และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่ง สภ.วิชิต จ.ภูเก็ตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
3.ตม.นครศรีธรรมราช จับกุมขบวนการค้ากามสาวลาว เปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า จากกรณีได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีหญิงลาวลักลอบค้าประเวณีในพื้นที่รับผิดชอบ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม เข้าตรวจสอบและวางแผนการล่อซื้อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 เวลาประมาณ 23.00 น. ณ ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยจับกุม
3.1 น.ส.โซบ ชื่อเล่น สุ (MRS.SOP) อายุ 33 ปี สัญชาติลาว เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองควนโดน จ.สตูล ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรประเภท ผ.30 โดยวันเกิดเหตุ ชุดสืบสวนฯ วางแผนให้เจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นผู้ซื้อบริการโดยตกลงเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท แบ่งให้เจ้าของร้าน จำนวน 300 บาท เป็นค่าซื้อชั่วโมง หลังจากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวไปเปิดห้องพักชื่อ ต้องรักรีสอร์ท โดย น.ส.โซบ เป็นคนจ่ายค่าห้องพักเอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจค้นห้องพักพบ น.ส.โซบ หรือ สุ นุ่งผ้าเช็ดตัวมาเปิดประตูให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพร้อมแสดงของกลางธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ และแจ้งข้อหา “เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้า ตามถนน สาธารณสถาน หรือในที่อื่นใด เพื่อการค้าประเวณี อันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”
3.2 น.ส.มณีวรรณ (MRS.MANIVANH) อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ถือหนังสือเดินทางสัญชาติลาว ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าล่อซื้อ พบว่ากำลังให้บริการแขกที่มานั่งดื่มภายในร้านซึ่งมีการค้าประเวณีแอบแฝง จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณี เพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตัวเองหรือผู้อื่น” และ
3.3 นางจารุวรรณ อายุ 54 ปี ในข้อหา “เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นยินยอมก็ตาม” ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวบุคคลทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ เว็บไซต์ www.immigration.go.th
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน