แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเผยในวันเสาร์ (27 ส.ค.) โดยระบุ ทหารของชาดจำนวน 4 นายเสียชีวิต และอีกอย่างน้อย 12 รายได้รับบาดเจ็บภายหลังจากรถโดยสารของพวกเขาเกิดแล่นทับ “กับระเบิด” ที่ถูกกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” จากไนจีเรีย ลอบนำมาฝังไว้ ใกล้รอยต่อพรมแดนระหว่างชาดและไนเจอร์
รายงานข่าวระบุว่า เหตุรถโดยสารของเหล่าทหารชาดแล่นทับกับระเบิดจนเป็นเหตุให้มี ทหารเสียชีวิตจำนวน 4 นาย และอีกอย่างน้อย 12 รายได้รับบาดเจ็บ ในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (26 ส.ค.) ที่ผ่านมาที่เมืองคาอิกา คินชี ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากแนวชายแดนระหว่างชาดและไนเจอร์
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของทางการชาดระบุว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีความคล้ายคลึงกับการกระทำของกลุ่มโบโก ฮารัมจากไนจีเรียหลายครั้งก่อนหน้านี้ ถึงแม้จนถึงขณะนี้ทางกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์หัวสุดโต่งกลุ่มนี้ที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) มาตั้งแต่เมื่อปี 2015 จะยังไม่ออกมาอ้างความรับผิดชอบว่าฝ่ายตนอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก็ตาม
ก่อนหน้านี้ทางการชาดประกาศเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่าจะส่งกำลังทหารจำนวนราว 2,000 นายเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างไนเจอร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการไนเจอร์ ในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์โบโก ฮารัม ภายหลังจากที่กลุ่มสุดโต่งที่มีฐานอยู่ในไนจีเรียกลุ่มนี้ ได้ข้ามพรมแดนเข้ามาก่อเหตุโจมตีหลายหมู่บ้านบริเวณชายแดนของไนเจอร์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์โบโก ฮารัม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายแต่ดั้งเดิมในการสถาปนารัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรีย ได้เริ่มข้ามพรมแดนเข้ามาก่อเหตุโจมตีในไนเจอร์ ชาด และแคเมอรูนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ ปี 2015 เป็นต้นมา
ด้าน สำนักงานข้าหลวงใหญ่ เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เปิดเผยว่า เหตุรุนแรงและปัญหาความไม่สงบที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโบโก ฮารัมตลอดระยะเวลา 7 ปี หรือตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ได้ผลักดันให้เกิดคลื่นผู้อพยพที่มีจำนวนราว 2.1 ล้านคนในไนจีเรีย และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 20,000 รายเฉพาะในไนจีเรีย ยังไม่นับรวมกับผู้เสียชีวิตในประเทศเพื่อนบ้านรายรอบ อย่าง แคเมอรูน ชาด และ ไนเจอร์